Monday, September 30, 2013

วันหยุดเฮฮา ตามประสาคนรัก


สำหรับคนรักกัน นอกจากการดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกันแล้ว การมีเวลาให้กัน และการได้ทำกิจกรรมดีๆ ร่วมกัน เป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยเติมเต็มความรักให้สวยงาม สมบูรณ์

สำหรับคู่รักที่ยังไม่รู้ว่าวันว่างๆ จะทำอะไรดี ไม่รู้จะไปไหน ไม่อยากแค่ดูหนัง ฟังเพลง หรือทานข้าวแบบธรรมดา วันนี้เรามีกิจกรรมสนุกๆ ในวันว่างๆ สำหรับคู่รักมาฝากกันคะ



ตะลุยชิมอาหาร สำหรับคนที่รักการกิน ลองหาร้านเด็ดๆ ที่มีคนพูดถึงเยอะแถวใกล้ๆ บ้าน หรือลองหารายชื่อร้านอาหารเด็ดๆ จากในเว็บไซต์ นิตยสาร หรือหนังสือท่องเที่ยว แล้วเขียนชื่อร้านที่ตัวเองชอบลงบนกระดาษ จากนั้นวันเสาร์-อาทิตย์ก็ลองชวนแฟน หรือเพื่อนไปลองตะลุยชิมอาหารทั้งของคาวหวานให้ฉ่ำใจ รับรองได้ทั้งความสนุก อิ่มท้อง และอิ่มใจ


เที่ยวตลาดน้ำวันหยุด หากอยากสัมผัสบรรยากศแบบบ้านๆ กินอาหารพื้นเมืองโบราณ ดูศิลปะงานฝีมือสวยจากชาวบ้านแล้วละก็ ไม่ควรพลาดไปเที่ยวชมตลาดน้ำ ในบ้านเรามีตลาดน้ำหลายที่ หลากหลายสไตล์ เริ่มจากในกรุงเทพ ตลาดน้ำใจกลางเมืองหลวง ตลาดน้ำตลิ่งชัน เป็นตลาดน้ำที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ และวิถีชีวิตชาวบ้านริมน้ำ สองฝั่งคลอง ที่แวดล้อมไปด้วยสวนกล้วยไม้ สวนผัก และผลไม้พื้นบ้านไว้ได้อย่างครบถ้วน ไม่ห่างกันมากนัก ก็จะมี ตลาดน้ำคลองลัดมะยม เป็นตลาดน้ำขนาดเล็กที่ยังมีความสมบูรณ์ในความเป็นธรรมชาติ แม่น้ำลำคลองที่นี่ยังคงความสวยงาม ตลาดน้ำแห่งนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันในชุมชน ในรูปแบบการท่องเที่ยวเพื่ออนุรักษ์แม่น้ำลำคลอง โดยให้ชุมชนมีแหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน เช่น ผัก ผลไม้ ขนมคาวหวาน และงานหัตถกรรมที่สือทอดกันมาหลายอายุคน หากอยากออกไปนอกเมืองหน่อย ก็ลองขับรถไปแถวนครปฐม มีตลาดน้ำดอนหวาย ตลาดที่ยังคงสภาพตลาดเก่าในอดีตสมัยรัชกาลที่ 6 ลักษณะตัวอาคารเป็นอาคารไม้เก่าๆ อยู่ติดริมแม่น้ำท่าจีน มีพ่อค้า แม่ค้า นำสินค้าและอาหารมาจำหน่ายในบริเวณวัด มีตลาดนัดสินค้าทางการเกษตรที่วัดดอนหวายทุกวัน แถมมีบริการเรือนำเที่ยวชมทัศนียภาพ 2 ข้างทางอีกด้วย ส่วนทางสมุทรปราการก็จะมีตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ที่นี่เต็มไปด้วยความเรียบง่ายของผู้คนริมสองฝั่งคลอง นอกจากมีการขายสินค้า อาหารแล้ว ที่นี่ยังมีบริการพายเรือท่องเที่ยวชมคลองบางน้ำผึ้ง ปั่นจักรยานสัมผัสชีวิตชาวบ้านและธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ชมการสาธิตทำธูปหอม และเที่ยวสวนเกษตร ตลาดน้ำอีกแห่งหนึ่งที่น่าไปเที่ยวคือ ตลาดน้ำอัมพวา เป็นตลาดน้ำที่ขึ้นชื่อมากในตอนนี้ มีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือขายอาหาร และเครื่องดื่ม เช่น หอยทอด ก๋วยเตี๋ยว กาแฟ โอเลี้ยง ขนมหวานต่างๆ และมีรถเข็นขายของบนบกด้วย บรรยากาศสบายๆ มีเพลงฟังจากเสียงตามสายของชาวชุมชน สามารถเดินเที่ยวชมตลาดหาซื้ออาหารรับประทานและเช่าเรือไปเที่ยวชมดูหิงห้อยในยามค่ำคืนได้อีกด้วย สำหรับคนที่สนใจ อยากเที่ยวตลาดน้ำวันหยุด สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่


ปั่นจักรยานรอบกรุง ทางกรุงเทพมหานครมี โครงการปั่นจักรยานรอบเกาะรัตนโกสินทร์ หรือ Green Bangkok Bike  มีบริการจักรยานให้ยืมฟรี เพียงแค่ยื่นบัตรประจำตัวประชาชน ก็สามารถนำจักรยานมาปั่นเล่นชมเมือง โดยมีสถานีจอดรถจักรยานให้บริการทั้งหมด 8 จุด ได้แก่ 1. หน้ากองการท่องเที่ยว ถนนพระอาทิตย์ สวนสันติชัยปราการ 2. เกาะกลางวัดบวรนิเวศ ถนนสิบสามห้าง 3. ท่าเตียน 4. สวนสราญรมย์ 5. ลานคนเมืองหน้าศาลาว่าการกทม. 6. สนามหลวง 7. หน้าวัดพระแก้ว 8. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ระหว่างทางที่ปั่นนั้นก็จะเห็นทั้งวัดวาอาราม พระราชวังที่สวยงาม สถานที่เก่าแก่ของกรุงเทพ เช่น ลานพลับพลาเจษฎาบดินทร์ จากจุดนี้เองจะเห็นโลหะปราสาท ตั้งตระหง่านมีฉากหลัง เป็นพระบรมรูปรัชกาลที่ 3 ด้านซ้ายเป็นป้อมมหากาฬและกำแพงพระนคร ริมป้อมเป็นคลองรอบกรุง ไกลออกไปเป็นภูเขาทอง หากเป็นช่วงเวลากลางคืนก็จะสวยงาม เพราะมีการประดับไฟส่องสว่าง นอกจากนี้ยังจะได้เห็นเสาชิงช้า วัดสุทัศน์ วัดราชบพิธฯ กระทรวงกลาโหม ซึ่งหน้ากระทรวงจะมีปืนใหญ่ หนึ่งในนี้คือนางพญาตานี ปืนใหญ่ที่สวยที่สุดด้วย ศาลหลักเมือง วัดพระแก้ว สวนสราญรมย์ วัดอรุณ วัดโพธิ์ สนามหลวง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พิพิธภัณฑสถานแห่งขาติพระนคร หรืออดีตวังหน้า ป้อมพระสุเมรุ สำหรับกิจกรรมนี้ นอกจากคู่รักจะได้ชมสถานที่สวยๆ สำคัญๆ ของกรุงเทพแล้ว ยังเป็นโอกาสดีที่จะได้เรียนรู้ศิลปะ และประวัติศาสตร์ของไทยอีกด้วย ที่สำคัญคือ ได้ออกกำลังกายคะ สำหรับผู้ที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองการท่องเที่ยว กทม. โทร. 0 2225 7612-5


นั่งรถ ล่องเรือเที่ยวรอบเมือง กิจกรรมสำหรับคนในเมืองหลวง ไม่จำเป็นต้องขับรถเองให้เสียเหงื่อ เปลืองน้ำมัน และเสียอารมรณ์ ลองใช้บริการขนส่งมวลชนดู พกกล้องถ่ายรูปดีๆ ติดตัวไปด้วย เอาไว้ถ่ายรูปข้างถ่าย จากนั้นนั่งรถเมลล์สาย 503 59 จากอนุสาวรีย์ฯ มาลงสนามหลวง ไหว้ศาลหลักเมือง เที่ยววัดพระแก้ว เดินมาท่าพระจันทร์ มีอาหารคาวหวานเพียบ สามารถซื้้อกินตามชอบใจ จากนั้นข้ามเรือไปฝั่งวังหลัง เที่ยวพิพิธภัณฑ์ในศิริราช เดินเล่นดูของมือสองตลาดวังหลัง เดินมาไหว้พระที่วัดระฆัง ให้อาหารปลา ข้ามเรือกลับมาท่าช้าง นั่งรถเมล์สาย 53 ลงวัดโพธ์ ไหว้พระวัดโพธิ์ มิวเซียมสยาม ข้ามไปฝั่งวัดอรุณ ไหว้พระวัดอรุณ ข้ามกลับมา นั่งเรือด่วนจากท่าเตียน ไปลงเอเชียทีค เดินเที่ยวช่วงเย็นๆ ค่ำๆ นั่งรถเมล์สาย 1 มาเยวราช หามื้อเย็นทานแถวเยาวราชพอหิวๆ ก็หาอาหารอร่อยๆ


ไหว้พระกับขสมก. สำหรับคู่รักที่รักการทำบุญ อยากทำบุญร่วมชาติ ตักบาตรร่วมขัน ไม่ควรพลาดกิจกรรมนี้ ทางขสมก. ได้จัดกิจกรรม "ไหว้พระ 9 วัดกับขสมก." มีโปรแกรมไหว้พระกว่า 20 โปรแกรมให้เลือก สามารถไปแบบเช้าไปเย็นกลับ ในแต่ละโปรแกรมจะผสมผสานวัดดังๆ ที่เป็นที่รู้จัก กับวัดที่ต้องการทุนทรัพย์ในการพัฒนา หรือปฏิสังขรณ์ และที่ขาดไม่ได้เลยคือ จะแทรกด้วยวัดที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อขอโชคขอลาภ เช่น ศาลนางไม้ ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง จนไปถึงศาลคุณพุ่มพวง ดวงจันทร์ ราชินีลูกทุ่งไทย สำหรับคนที่สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่


ล่องเจ้าพระยาพาเพลิน เที่ยวทางบกกันไปแล้ว ลองมาเที่ยวทางน้ำกันบ้าง รถไฟฟ้าบีทีเอส จับมือกับ บริษัทเรือด่วนเจ้าพระยา บริษัทให้บริการ เดินเรือโดยสารที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร จัดโปรแกรม "เรือท่องเที่ยวเจ้าพระยา" พาเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น วัดโพธิ์ วัดอรุณ ตลาดท่าเตียน ปากคลองตลาด ถนนข้าวสาร สนามหลวง เป็นต้น เริ่มต้นการเดินทางจากท่าเรือสาทร (ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าบีทีเอสที่สถานีสะพานตากสิน) ล่องแม่น้ำเจ้าพระยา จอดรับส่งตลอดลำน้ำไปถึงท่าเรือพระอาทิตย์ทั้งสิ้นรวม 8 ท่าเรือและล่องกลับมายังท่าเรือสาทรอีกครั้งตามเส้นทางเดิม โดยนักท่องเที่ยวสามารถขึ้น-ลง ตามท่าเรือเพื่อไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ได้ตลอดเส้นทางเดินเรือ สำหรับคนที่สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่


นั่งรถไฟไปต่างจังหวัด หลายคนอาจมองว่าการนั่งรถไฟ เป็นการเดินทางที่ช้า เนิบนาบ แต่สำหรับคู่รักแล้ว การเดินทางโดยรถไฟ เป็นโอกาสดีที่จะได้นั่งสวีตกันนานๆ ได้ชมธรรมชาติข้างทาง ผลัดกันถ่ายรูป และได้คุยกันแบบนานๆ และเพลินๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเส้นทาง ไม่ต้องเมื่อยล้ากับการขับรถ หรือกังวลว่ารถจะเสีย น้ำมันจะหมด ที่สำคัญคือ ประหยัดกว่าการเดินทางโดยเครื่องบิน รถโดยสาร และรถส่วนตัว โดยสามารถนั่งไปรถไฟไปจังหวัดใกล้ๆ เที่ยวชมตัวเมือง นอนค้างสักคืนสองคืนแล้วค่อยกลับบ้าน หรือนั่งไปไกลๆ ก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคู่


ฝึกขี่ม้า หากอยากสวีตและได้ประโยชน์ต่อร่างกาย และพัฒนาบุคคลิกภาพไปพร้อมๆ กัน การฝึกขี่ม้าก็น่าสนใจไม่น้อยเลย เชื่อไหมคะว่า การขี่ม้าจัดเป็นแอโรบิคแบบเบาๆ ทำให้หัวใจและปอดแข็งแรง ขณะเดียวกันยังช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ถึงชั่วโมงละ 300 แคลอรี่ ทำให้กล้มเนื้อขา ต้นขา และท้องแข็งแรง ช่วยให้ท่วงท่าบุคลิกดี เกิดความสมดุล ปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็ว อวัยวะต่างๆ ทำงานสัมพันธ์กัน ในเมืองไทยมีสถานที่ฝึกขี่ม้าอยู่หลายที่ เริ่มจากในกรุงเทพ สามารถเรียนขี่ม้ากับชมรมขี่ม้าทหารม้ารักษาพระองค์ หรือ ม.พัน 29 อยู่บริเวณสนามเป้า ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่ ส่วนที่เชียงใหม่ เรียนขี่ม้าได้ที่ กองพันสัตว์ต่าง กรมการสัตว์ทหารบก (ค่ายตากสิน) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่


โรแมนติกริมทะเล เมืองไทยมีทะเลสวยเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหมู่เกาะสุรินทร์ หมู่เกาะอ่างทอง เกาะรอก เกาะเสม็ด เกาะกูด เกาะช้าง เกาะพีพี เกาะสมุย เกาะพงัน ไม่ควรพลาดที่จะพาแฟนไปสวีตท่ามกลางสายลม แสงแดด และน้ำทะเลสีฟ้า นอกจากจะเดินเล่นแถวชายหาด กินลม ชมวิว ว่ายน้ำ อาบแดดแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้คู่รักได้สวีตอีกมากมาย เช่น ปืนเขา ล่องเรือชมเกาะ ดำน้ำลึกและดำน้ำตื้น พายเรือคายัค บานาน่าโบ๊ท กระดานโต้คลื่น พาราเซล เจ็ทสกี วอลเลย์บอลชายหาด ขี่ม้าริมหาด สปาทราย เป็นต้น


เดินป่า ล่องแพ กิจกรรมนี้นอกจากจะทำให้คู่รักได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม ได้สวีตท่ามกลางขุนเขา และสายหมอก ได้ตื่นเต้นสนุกสนาน ผจญภัยกับการล่องแพแล้ว ยังเป็นการฝึกความอดทน เป็นโอกาสดีที่จะได้เรียนรู้นิสัยของแต่ละฝ่ายเมื่อเจอกับความยากลำบาก รักกันจริงหรือหลอกดูได้จากการช่วยเหลือกันตอนไปเดินป่านี่แหละคะ คนรักของเราจะมีน้ำใจช่วยเหลือเราแค่ไหน ปล่อยให้เราเดินขึ้นเขาคนเดียวหรือไม่ เดินแบบรอเราหรือตัวใครตัวมัน ดูแลเราเมื่อเราเหนื่อย กระหายน้ำ หรือปล่อยให้เดินไปดื่มน้ำที่น้ำตกเอง หากอยากรู้คำตอบว่าคนรักของคุณเป็นแบบไหน ก็ลองหาวันว่างๆ ชวนกันไปเดินป่าดูนะคะ มีสถานที่แนะนำหลายที่ ได้แก่ เชียงใหม่แถวแม่ริมและแม่แตง มีเดินป่า ขี่ช้างล่องไพร และล่องแพ หรือที่ภูกระดึง ได้เดินป่าศึกษาสมุนไพร และดอกไม้นานพรรณ เช่น ระดุมเงิน กระดุมทอง เอื้องม้าวิ่ง สรัสจันทร หงอนนาค เป็นต้น อีกสถานที่หนึ่งที่น่าสนใจคือ ตาก มีเดินป่าอุ้มผาง เป็นป่ามีทั้งป่าดงดิบและป่าผลัดใบ รวมทั้งทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่ามากมาย และพร้อมชม น้ำตก " ทีลอซู " น้ำตกขนาดใหญ่ที่สวยงามสุด ๆ ของไทยแห่งหนึ่ง


แคมป์ไฟ หากอยากหลบจากเมืองอันวุ่นวาย มาพักผ่อนอยู่อย่างเงียบๆ ในบรรยากาศงามๆ ท่ามกลางป่าเขา สาวๆ ควรชวนคู่รักมานอนตั้งแคมป์ไฟสักคืนสองคืน แนะนำที่ ภูสอยดาว ได้ชมทั้งธรรมชาติสวยๆ ทุ่งหญ้าทิวสนและดอกหงอนนาคสีม่วงอ่อน พร้อมเล่นน้ำตกเย็นฉ่ำ กิจกรรมนี้เปิดโอกาสให้คู่รักได้ดูแลและช่วยเหลือกันอย่างแท้จริง เพราะในป่านั้นไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวก ทุกอย่างต้องทำเอง เริ่มจากตั้งเต้นท์ ก่อไฟ ทำอาหาร กิจกรรมนี้พิสูจน์ได้หลายอย่างเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเป็นผู้นำ การเป็นผู้ตามที่ดี ความอดทน การดูแลเอาใจใจซึ่งกันและกัน งานนี้จะรู้ว่าผู้ชายสามารถเป็นที่พึ่งให้ผู้หญิงได้หรือไม่ มีความเป็นผู้นำมากน้อยแค่ไหน สามารถแก้ปัญหาในยามขับขันได้มากน้อยเพียงใด และผู้หญิงจะอยู่เคียงข้างช่วยเหลือผู้ชายในยามลำบาก หรือเอาแต่บ่น ก็ลองดูกันคะ


โหนสลิงเหนือผืนป่า กิจกรรมนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในต่างประเทศ ให้ทั้งความสนุกสนานตื่นเต้น ในเมืองไทยมีที่โหนสลิง หรือ Zipline อยู่หลายที่ เริ่มจากใกล้ๆ กรุงเทพมี Flight of the Gibbon ผจญภัยเหินเวหาที่สูงที่สุดในเมืองไทย มีฐานกิจกรรมทั้งหมดกว่า 24 ฐาน และยังสามารถเที่ยวชมสัตว์ป่าและพันธุ์ไม้นานาชนิด ตลอดการเดินทาง สำหรับที่เชียงใหม่มี Eagle Track Zipline ตั้งอยู่บริเวณม่อนแจ่ม อำเภอแม่ริม โหนลวดสลิงกลางอากาศผ่านทุ่งนาขั้นบันได ป่า และน้ำตก ตื่นตาตื่นใจไปกับทิวทัศน์สวย ๆ ของม่อนแจ่ม


บันจี้จัมพ์ เป็นกีฬาที่ผู้เล่นจะต้องกระโดดลงมาจากที่สูงโดยมีเชือกยึดไว้ โดยทั่วไปจะกระโดดลงมาจากสถานที่ที่เคลื่อนที่ไม่ได้ เช่น สะพาน อาคารสูง เป็นต้น แต่บางครั้งก็สามารถกระโดลงมาจากอากาศยานอย่างบอลลูนหรือเฮลิคอปเตอร์ได้เช่นกัน คู่รักที่ชอบความตื่นเต้น หวาดเสียว ควรทำกิจกรรมนี้ร่วมกัน เชื่อแน่ว่าจะทำให้คู่รักมีรอยยิ้มทุกครั้งเมื่อหวนนึกถึงการทำกิจกรรมนี้ด้วยกันมาก่อน ในเมืองไทยมีสถานที่เล่นบันจี้จัมพ์อยู่หลายที่ ได้แก่ ที่พัทยา มีผู้ใหบริการบันจี้จัมพ์ 2 ราย คือ Jungle Bungy Jump และ Pattaya Kart Speed Way ด้านเกาะสมุย มีผู้ให้บริการ 1 ราย ที่อ่าวเฉวง Samui Bungee Jumping โดยกระโดดที่ความสูง 50 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลของอ่าวเฉวง ส่วนภูเก็ตมีผู้ให้บริการ 2 ราย คือ Jungle Bungy Jump ที่หาดกระทู้ โดยกระโดดจากความสูง 50 เมตรเหนือน้ำทะเล และ World Bungy ที่หาดป่าตอง โดยเป็นที่กระโดดบีนจี้จัมพ์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย สุดท้าย ที่เชียงใหม่ มีผู้ให้บริการ 1 ราย คือ ที่อำเภอแม่ริม Jungle Bungy Jump (Chiang Mai) โดยขึ้นลิฟท์ไปยังแท่นกระโดดซึ่งสูง 50 เมตรเหนืออ่างเก็บน้ำ



เพ้นท์บอล หลายคนคงคุ้นหูกับ "บีบีกัน" มากกว่าเพ้นท์บอล เป็นกีฬาประลองยุทธ์ จะแบ่งผู้เล่นออกเป็น  สองฝ่าย ใช้ปืนอัดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และกระสุนสี (Paintball Gun) เป็นอาวุธ สวมหน้ากาก (Mask) ป้องกันใบหน้า และเสื้อผ้าชุดฝึกทหารเพื่อป้องกันรอยเปื้อนสีต่อร่ายกายจากการถูกกระสุนยิงด้วยแรงดันของแก๊ส เมื่อกระสุนปืนกระทบเป้าหมายน้ำสีที่บรรจุอยู่ข้างในกระสุนจะแตกออกมา ไม่เป็นอันตรายต่อผู้เล่นสามารถเล่นได้ทุกเพศ กิจกรรมนี้นอกจากจะสนุกสนาน ตื่นเต้น เร้าใจแล้ว คู่รักยังได้ฝึกใช้สมองในการวางแผน ฝึกความสามมัคคีในการทำงานกันเป็นทีม จะอยู่ด้วยกันรอดไม่รอดก็ดูได้จากกิจกรรมนี้แหละคะ หากอยากเพิ่มความสนุก ควรชวนเพื่อนไปกันหลายๆ คน


พารามอเตอร์ สำหรับคนที่ใฝ่ฝันว่าครั้งหนึ่งในชีวิตนี้อยากโบยบินบนท้องฟ้าเคียงข้างกับคนรัก ไม่ควรพลาด พารามอเตอร์ เป็นการบินโดยใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็กที่นักบินสามารถแบกบนหลังเหมือนแบกเป้ ประกอบกับร่มแบบมาตรฐานคล้ายกับที่ใช้ร่อนจากภูเขา แต่ด้วยเครื่องยนต์ทำให้พารามอเตอร์สามารถบินขึ้นลงได้อย่างอิสระมากว่าร่มร่อน( paraglide) รับรองว่าสนุกสนาน ตื่นเต้า เร้าใจ และจะกลายเป็นความทรงจำดีๆ ที่คู่รักไม่มีวันลืมเลยทีเดียว


ล่องลอยบนฟ้าด้วยแอร์บอลลูน บางคนคิดว่าพารามอเตอร์ดูหวาดเสียวเกินไป เรามีอีกหนึ่งกิจกรรมที่สามารถให้คุณสวีตกับแฟนบนท้องฟ้า พร้อมชมบรรยากาศสวยๆ ของเมืองจากมุมสูงมาแนะนำ Hot Air Balloon ลอยตัวบนท้องฟ้ากับกระเช้าบอลลูนยักษ์ นอกจากจะได้สวีตกันในบรรยากาศสวยๆ แล้ว คู่รักยังสามารถบันทึกภาพสวยๆ และวิดีโอน่ารักๆ ไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย กิจกรรมนี้เหมาะสำหรับ คู่รักที่กำลังจะแต่งงาน การแต่งงานบนบอลลูนก็น่าสนใจไม่น้อย หรือคู่รักที่ต้องการมีวันฮันนีมูนแบบพิเศษ คู่รักที่ต้องการฉลองครบรอบแต่งงาน สำหรับคนที่สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่


ตกปลา คู่รักที่มีบ้านตั้งอยู่ใกล้หนอง คลอง บึง วันว่างๆ ลองทำอาหารง่ายๆ ไปนั่งกิน พร้อมกับตกปลาด้วยกัน ระหว่างรอปลาติดเบ็ด ก็ชวนกันคุยเรื่องโน่นเรื่องนี่ที่เราไม่ค่อยได้คุยในวันธรรมดา เพราะทำงานหนัก เรียนหนัก ไม่มีเวลาได้คุยกันจริงๆ พอได้ปลามาสักหน่อย ก็เอามาทำอาหารด้วยกัน รับรองว่ามื้อนี้จะกลายเป็นมื้อแห่งความทรงจำที่ทั้งสองคนจะพูดถึงไปนานแสนนานเลยทีเดียวคะ

หลังจากที่ทำกิจกรรมข้างต้นแล้ว รับรองว่าคู่รักแต่ละคู่จะรักกันมากขึ้นแน่นอน ส่วนคนที่ยังไม่มีคู่รักก็ไม่ต้องเศร้าคะ ชวนเพื่อนๆ ไปสนุกกันก็ได้ หรือจะไปเที่ยวคนเดียวก็ไม่แปลกคะ นอกจากจะได้พักผ่อนแล้ว ยังได้เห็นบรรยากาศเมืองแบบสวยๆ ธรรมชาติงามๆ ที่สำคัญคือ คุณจะรู้สึกดี มีความสุขกับชีวิตมากขึ้น รู้สึกว่าชีวิตนี้ไม่น่าเบื่อ และมีพลังในการเรียน การทำงานมากขึ้นกว่าแต่ก่อน

สำหรับคนที่สนใจอยากหากิจกรรมสนุกๆ ในวันหยุด สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่ และ ที่นี่

บทความโดย นันทพร คำยอด



1 comment: