Saturday, February 22, 2014

กีฬาสุดโปรดของดาราคนดัง

หลายๆ คนอาจสงสัยว่าทำไมดารา คนดัง หลายๆ คนถึงมีหุ่นสวยกระชับ รูปร่างดีจนต้องเหลียวหลังมอง นอกจากการกินอย่างถูกวิธีแล้ว สิ่งที่ดาราทั้งหลายเขาทำเป็นประจำกันก็คือ "การออกกำลังกาย" คะ วันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าดาราเขาออกกำลังกายแบบไหนถึงได้สวยวันสวยคืน



เริ่มจากนางแบบชื่อดัง "ลูกเกด เมทินี" เคล็ดลับหุ่นสวยกระชับของเธอ คือ "การต่อยมวย" โดยได้ให้สัมภาษณ์ว่าไว้ "การดูแลรูปร่างของลูกเกด เน้นการออกกำลังกายค่ะ ตอนนี้ก็มีต่อยมวย ต่อยมานานเป็นปีละค่ะ ก่อนที่เค้าจะฮิตกันอีก นอกจากนั้นถ้ามีเวลาว่างก็แอโรบิคแล้วก็ยกเวทนิดหน่อย แต่ส่วนมากจะเน้นต่อยมวย เพราะ จะเผาผลาญไขมัน และออกกำลังกายได้ทุกส่วน ถ้าเราเตะ เข่า ในท่าถูกวิธี รูปร่างก็จะดูเฟริม์ขึ้นไม่หย่อนคล้อย"



ส่วนเพื่อนนางแบบที่หุ่นสวยไม่แพ้กัน "พิม ซอนย่า คูลลิ่ง" เธอเล่นกีฬาหลายประเภทมากๆ คะ ไม่ว่าจะเป็น โยคะฟลาย วิ่ง และเดินเร็ว  "การออกกำลังกายสามารถทำได้ทุกที่ ดูทีวีก็สามารถปั่นจักรยานได้ ซิตอัพได้ ตอนเช้า ตื่นนอนแล้วพิมจะออกไปเดินเร็วๆ ประมาณ 45 นาที ซึ่งจะทำให้ได้บริหารปวด ขา เอว สะโพก แต่ต้องเดินเร็วๆ และซิตอัพทุกวัน เช้า 1 ครั้ง เย็น 1 ครั้ง เซ็ตละ 10 ครั้ง 3 เซ็ต ตอนนอนดูทีวีก็ยกขาขึ้น 3 เซ็ต"



ด้านดาราสวยและเซ็กซี่ตลอดกาลอย่าง "ต่าย เพ็ญพักตร์" เผยความลับสวยสองพันปีว่า "มีออกกำลังกายบ้าง แต่พี่เป็นคนไม่ออกกำลังกายหักโหมนะคะ เป็นคนที่ชอบทำงานบ้านเอง มันเหมือนเราได้เคลื่อนไหวตัวเองตลอดเวลา ทำแบบนี้มานานแล้ว 30 กว่าปีที่เราทำอยู่ เลยไม่ต้องไปออกกำลังกายถึงขนาดนั้น การที่เราทำอยู่ที่บ้านก็เหมือนได้ออกแรง เพราะเมื่อก่อนเราไม่ค่อยสนใจหรอก เหมือนเรายังอายุน้อยๆ แต่อายุมากขึ้นเหมือนต้องดูแลตัวเองมากขึ้น"



ซุปตาร์ "อั้ม พัชรภา" ออกกำลังกายหลายประเภทมากๆ คะ ไม่ว่าจะเป็นตีแบด เข้าฟิตเนส วิ่ง หรือแม้แต่ทำงาน ก็ยังหาเวลามาออกกำลังกายด้วยการเดิน จึงไม่ต้องแปลกใจเลยนะคะ ว่าทำไมถึงได้รับรางวัลสาวเซ็กซี่แทบทุกปี จนต้องออกมาประกาศว่าพอแล้ว



ส่วนดาราที่สวยไม่แพ้อั้ม อย่าง "ชมพู่ อารายา" เธอให้ความสำคัญกับการออกลังกายมากๆ ถึงขั้นจ้างเทรนเนอร์มาสอนเล่นโยคะ และต่อยมวยถึงบ้านคะ



อีกหนึ่งดาราที่กำลังฮอตข้ามประเทศ "ญาญ่าญิ๋ง รฐา" เธอเน้นการดูแลร่างกายทั้งภายในและภายนอก "การออกกำลังกายเมื่อก่อนจะเข้าฟิตเนส อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ห่างมานานมากจนพี่ๆ โทรมาถามว่าเมื่อไหร่จะเข้ามาอีก ตอนนี้น้ำหนักก็ขึ้น 2-3 กก. ปกติจะไปวิ่ง 30 นาที แล้วเล่นเครื่องต่างๆ เล่นเวท บอล ซิทอัพ วิดพื้น ถ้ามีเวลาว่างมาก ก็จะเล่นบอดี้คอมแบทบ้าง โยคะ พีลาทีส ถ้ามีเวลาก็จะอยู่ในนั้นทั้งวัน คือเข้าบ่ายสอง ออกมาอีกที 1 ทุ่ม คือเราใช้เวลาทั้งวันแล้วมันได้จริงๆ ไม่ใช่ว่าไปวิ่งๆ นิดหน่อยแล้วกลับเพราะฉะนั้นการเข้ายิมของญิ๋งจะให้เวลามันจริงๆ อาบน้ำออกมาจะตัวเบา แล้วก็จะหิว ก็รู้ตัวว่าต้องส้มตำหรือสลัดแล้ว"



ปิดท้ายที่ "แหม่ม" คัทลียา แมคอินทอช คุณแม่ลูกสามที่ยังสาวและสวย เผยว่า  "หลักๆ เลยในหนึ่งอาทิตย์ต้องเล่นกีฬาอย่างน้อย 3 วัน ก็จะมีว่ายน้ำ เข้ายิม และฟิตเนส ว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายที่ดีมากช่วยได้ทุกส่วนในร่างกาย ที่สำคัญคือช่วยการไหลเวียนเลือดของหัวใจ ถ้าเลือดไหลเวียนดี หน้าตาผิวพรรณก็ออกมาสวยงาม ส่วนฟิตเนสเล่นเฉพาะส่วนคือแขน ก้น ขา เพื่อไม่ให้ดูคล้อย แหม่มไม่ได้เล่นกีฬาเพื่อให้ผอมแต่เพื่อให้กระชับแข็งแรง

สำหรับสาวๆ ที่อยากออกกำลังกายแบบสนุกด้วยการเต้นในราคาสุดพิเศษสุดคุ้ม หรือต้องการออกกำลังด้วยโปรแกรมใหม่ๆ ทันสมัย ไม่ซ้ำใคร พร้อมกับผลลัพธ์ที่่น่าพอใจในเวลาอันรวดเร็ว ก็อย่ารอช้าคะ รีบมาทดลองออกกำลังกายด้วยกีฬาน้องใหม่มาแรงอย่าง Fusion Boxing, Pilates, Yoga Fly, และ Boot Camp โดยสามารถติดต่อ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 08 1660 0864 หรือ www.sanooklife.com

บทความโดย นันทพร คำยอด


Sunday, February 16, 2014

10 ขั้นตอนกินเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น


1. ลดปริมาณขนม แทนที่จะกินขนมคบเคี้ยวต่างๆ ที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ แถมทำให้อ้วนอีกต่างหาก ก็เปลี่ยนมารับประทานผลไม้ที่เปี่ยมไปด้วยวิตามินแทน เช่น แอ๊ปเปิ้ล องุ่น ส้ม หรือหากตัดอกตัดใจไม่ได้ ก็ค่อยๆ ลดปริมาณลงไปทีละนิด หรือหันมาบริโภคของกินเล่นที่มีประโยชน์ เช่น โยเกิร์ต เนยถั่ว ซีเรียลแท่ง เป็นต้นคะ

2. ใส่ใจกับการเลือกซื้ออาหาร เวลาที่สาวๆ ไปชอปปิ้งเลือกซื้ออาหาร ผัก ผลไม้เข้าบ้าน แทนที่จะเลือกซื้อของที่ถูกตา ต้องใจ ถูกปาก ควรจะพิธีพิถันเลือกของที่ดีต่อสุขภาพ และมีประโยชน์ ปลอดสารพิษ ถ้าจะให้ดีมากขึ้น ควรวางแผนไว้เลยว่าสัปดาห์นี้จะทำอาหารอะไร ในเมนูแต่ละมื้อ ควรมีผัก ผลไม้อยู่ด้วยทุกมื้อ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาล ไขมันสูง และไม่ควรทานอาหารที่เค็มมากๆ เพราะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำหนักพุ่งขึ้นอย่างน่าตกใจ

3. อ่านฉลากอาหารที่บริโภค ก่อนที่จะเลือกรับประทานอาหารใดๆ สาวๆ ควรใส่ใจอาหารฉลากอาหารนิดหนึ่งว่า มีปริมาณไขมันเท่าไหร่ มีน้ำตาล และโซเดียมหรือไม่ มีวิตามิน หรือแร่ธาตุมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้เพื่อจะได้แน่ใจว่าเลือกรับประทานอาหารที่ไขมันไม่สูง และได้สารอาหารเพื่อบำรุงร่างกาย บางคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องยาก เสียเวลา แต่ก็ดีกว่ารับประทานไปแล้ว ไม่มีประโยชน์ แถมเพิ่มไขมันสะสมให้ร่างกายนะคะ

4. มีวินัยในการกิน อยากจะสวย เราต้องมีวินัยในการกินคะ เลิกการกินของจุบจิบที่ไม่มีประโยชน์ ควรกินอาหารเป็นมื้อ แต่ละมื้อควรกำหนดปริมาณการกินด้วย ไม่กินจนอิ่มเกินไป หรือกินแบบเสียดายของ ปริมาณของมื้ออาหารในจานควรมีขนาดเท่ากับหนึ่งกำปั้นของคนกิน ถือว่ากำลังดีคะ

5. เปลี่ยนความคิด แน่นอนว่าอาหารเพื่อสุขภาพ คงไม่อร่อยเท่าไหร่ ขนม คุ้กกี้ หรือของจุบจิบต่างๆ แต่ถ้าหากเราเปลี่ยนความคิดจากการกินเพื่อความสุขใจ เพื่อความอร่อย มาเป็นการกินเพื่อบำรุงสุขภาพแล้ว รับรองว่านอกจากจะไม่อ้วนแล้ว ยังทำให้อายุยืนยาว ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บอีกด้วย

6. เลือกกินอาหารอย่างฉลาด แทนที่จะกินข้าวขาว ก็เลือกข้าวกล้องแทน เลือกอาหารประเภทผัด หรือต้ม แทนอาหารทอดที่ไขมันสูงมากๆ แทนที่จะดื่มน้ำหวานต่างๆ ก็หันมาดื่มน้ำเปล่า แทนที่จะพกขนมกินเล่นในกระเป๋า ให้หันมาพกผลไม้ไว้ทานแก้หิวคะ และแทนที่จะทานอาหารข้างทาง ก็หันมาทำอาหารกินเองที่บ้าน หรือทำอาหารไปทานที่ทำงาน เพราะนอกจากเราจะได้ทานอาหารอร่อยในแบบฉบับของตัวเองแล้ว ยังได้เลือกอาหารที่มีประโยชน์จริงๆ เป็นเมนูที่เราออกแบบเองให้เหมาะกับความต้องการของร่างกายเรา ที่สำคัญคือ ปลอดสารพิษคะ

7. เพิ่มสีสันหลากหลายในมื้ออาหาร ในหนึ่งมื้ออาหารนั้น ควรเลือกทานผัก ผลไม้ ที่มีสีสันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเขียว ส้ม เหลือง แดง เพราะแต่ละสีให้คุณค่าทางอาหารที่ต่างกันไป ที่สำคัญคือ เวลาที่เรากินอาหารที่สีสันหลากหลาย จะทำให้เรามีความสุขในการกินอีกด้วยคะ และในแต่ละสัปดาห์ควรเลือกทานผัก ผลไม้ที่ไม่ซ้ำกัน นอกจากเราจะไม่เบื่อแล้ว ยังได้รับวิตามิน แร่ธาตุที่หลากหลายจากอาหารที่เลือกทานอีกด้วยคะ

8. ไม่อดอาหาร ข้อนี้สำคัญมากๆ คะ หลายคนอยากผอม เลยอดอาหาร นอกจากจะไม่ช่วยลดน้ำหนักแล้ว ยังทำให้สุขภาพแย่อีกด้วยคะ ทำให้หงุดหงิดง่าย และสมองไม่แล่น เวลาที่เราอดมากๆ เรายิ่งกินเยอะกว่าเดิมคะ และมีแนวโน้มว่าจะกินของที่ไม่มีประโยชน์ เห็นอะไรอยู่ตรงหน้าก็กินหมดแหละคะ

9. งดกินก่อนนอน ควรทานมื้อเย็นให้ห่างจากเวลานอนประมาณสามชั่วโมงคะ หลังจากมื้อเย็นแล้ว ไม่ควรทานอีกเลยคะ ควรทิ้งช่วงให้ร่างกายได้เผาผลาญคะ คนที่ลดน้ำหนักสำเร็จส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับข้อนี้มากๆ คะ

10. อย่ายอมแพ้ ช่วงแรกที่ปฏิบัติเราอาจทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ทำได้ไม่ดี หรือบางคนคิดว่าเป็นเรื่องยาก เพราะบางครั้งอาหารอร่อยๆ อยู่ตรงหน้าจะอดใจยังไงไหว แต่ให้คิดอย่างนี้คะ เราไม่ได้ทำแค่ให้มีหุ่นสวย แต่เราทำเพื่อการเปลี่ยนตัวเองที่ขึ้น ทั้งร่างกายและจิตใจ กินดี สุขภาพก็ดีตามคะ โรคภัยไม่ถามหา เราต้องอดทนคะ และตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน ปฏิบัตตามแผนที่วางไว้ ผ่อนคลายกับตัวเอง ไม่เคร่งเครียด หรือหย่อนหยานเกินไป และให้กำลังใจตัวเองบ่อยๆ คะ

ที่มา: health.howstuffworks.com
แปลและเรียบเรียง โดย นันทพร คำยอด


Wednesday, February 12, 2014

สครับผิวสวยต้อนรับวาเลนไทน์


ใกล้ๆ จะถึงวันวาเลนไทน์แล้วนะคะ นอกจากการเตรียมของขวัญเซอร์ไพร์สคนรักแล้ว สิ่งที่สาวๆ ควรทำอีกอย่างก็คือ เตรียมตัวพอกหน้า สครับผิวให้สวยใสเพื่อเอาใจคนรักกันคะ

การสครับผิวด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ เป็นวิธีเผยผิวใหม่ให้มีความชุ่มชื่น นุ่มนวล ซึ่งส่วนมากนิยมใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสารสกัดจากธรรมชาติ เพราะจะได้เม็ดสครับที่มีขนาดเล็ก ลดการเสียดสีระหว่างเม็ดสครับกับผิว พร้อมมีสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยย่อยสลายเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพอย่างอ่อนละมุน ในขณะเดียวกัน ก็ช่วยเร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่อย่างเต็มประสิทธิภาพ ผิวจึงเนียนใสและมีสุขภาพดี ซึ่งสารสกัดจากธรรมชาติที่นิยมนำใช้ในการสครับผิวมีดังต่อไปนี้

“เมล็ดกาแฟ” มนต์มหัศจรรย์ของกาแฟอีน กาแฟมีคุณสมบัติในการรักษาและถนอมผิว ด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ทำหน้าที่เสมือนเป็นตัวขจัดพิษให้กับผิวชั้นนอก และกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิวชั้นในให้ดูเปล่งปลั่ง พร้อมปรับสภาพความดันโลหิตและกระตุ้นการเผาผลาญไขมันใต้ชั้นผิวด้วย

“ใบชาเขียว” สมุนไพรสุดฮิตของคนตะวันออก มีคุณสมบัติช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนัง โดยจะขับสารแอนตี้ออกซิแดนท์ โพลีฟีนอล ที่มีความสามารถในการฟอกออกซิเจนให้ผิวกลับมาเปล่งปลั่ง นอกจากนี้ ยังมีสารกาเฟอีนและสารฝาดแคททิคิน ที่ช่วยในกระบวนการเมตาบอลิซึมในร่างกายให้ดีขึ้น เผาผลาญไขมัน ลดริ้วรอยในชั้นผิว ทำให้ผิวกระจ่างและสมบูรณ์ขึ้น

“ลาเวนเดอร์“ เอสเซนเชียลออยล์แห่งการบำบัด มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูและผ่อนคลายร่างกายไปพร้อมๆ กัน ขณะเดียวกัน ก็ช่วยลดอาการปวดหัวและไมเกรน ควบคุมและปรับสมดุลระบบทำงานของต่อมไขมันใต้ชั้นผิวหนัง และมีสรรพคุณในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียอีกด้วย

“ผลส้ม” อุดมด้วยคุณค่าจากธรรมชาติ โดยเฉพาะ วิตามีนซี ที่มีสารช่วยขจัดความหมองคล้ำของผิวพรรณ บำรุงผิวใหม่ให้ขาวเนียน และลบรอยแห้งกร้าน ทำให้ผิวพรรณแข็งแรงขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์

ที่มา: women.thaiza.com

10 วิธีการลดน้ำหนักทันใจแบบง่ายๆ


เชื่อว่าคงไม่มีสาวๆ คนไหนในโลกนี้ไม่อยากมีหุ่นผอมเพรียว เพราะฉะนั้นหลายคนจึงตั้งหน้าตั้งตาลดน้ำหนักอย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้งอดอาหาร ออกกำลังกายอย่างหนัก ซึ่งวิธีการเหล่านี้ล้วนสร้างความลำบากให้คุณสาวๆ ไม่น้อย แต่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า จริงๆ ยังมีอีกหลายวิธีที่ลดน้ำหนักได้ง่ายๆ ภายในเวลาอันรวดเร็ว หากคุณเข้มงวดกับตัวเอง และเอาจริงเอาจัง ลองไปดูกัน ว่ามีวิธีไหนเจ๋งๆ มาแนะนำให้เพื่อนได้อ่านกันบ้าง

1 หยุดขี้เกียจ!!!
หลายคนฝันอยากจะมีหุ่นดีเหมือนพวกนางแบบ อยากจะลดน้ำหนักให้ได้ แต่ทำตัวขี้เกียจ!! ไม่เคยออกกำลังกาย บ่นเหนื่อยจะตาย ทำงานก็หนักพอและ กลับบ้านไปนอน ว่างๆ ก็ดูทีวี เล่นเฟสบุคกับเพื่อนเป็นชั่วโมง เอาขนมมานั่งกินด้วย ปากก็หยุดกินไม่ได้ หยิบๆๆๆ เป็นแบบนี้ทุกวี่ทุกวัน มันจะไปผอมอะไรแม่คู๊ณ!!!! อยากจะหุ่นดีเริ่มต้นง่ายๆไม่ต้องพึ่งมีดหมอ ไม่ต้องพึ่งยาลดความอ้วน ตั้งใจและคิดกับตัวเองจริงๆ จังๆ ว่า ฉันต้องมีหุ่นที่ผอมเพรียวให้ได้สักวัน มีวินัยกับตัวเอง หยุดขี้เกียจและกลับไปลงมือทำทุกข้อที่แนะนำมา ก็ช่วยให้สาวๆทุกคนมีหุ่นผอมเพรียวแบบทันใจแล้วจ้า ง่ายๆแค่นี้แหล่ะ!! จบ!!

2 ไม่อดอาหารแต่ทานให้มากขึ้น!!!
จริง ๆ แล้ว การลดน้ำหนักที่ดีที่สุดคือการกินอาหารให้มากขึ้นต่างหาก เอ๊ะยังไง!! ในอันดับที่ 2 เราไม่ได้หมายถึงให้คุณสวาปามนะจ๊ะ เพราะอาหารที่เราแนะนำให้คุณสาว ๆ ทานเพิ่มคือ อาหารจำพวกผักผลไม้ที่เป็นอาหารมากคุณประโยชน์ต่างหากล่ะ ส่วนอาหารทั้งหลายที่คุณชอบก็ยังสามารถทานต่อไปได้ ไม่จำเป็นต้องไปอดๆ อยากๆ อาหารที่เราอยากจะกินจนขาดใจตาย แค่ลดปริมาณให้น้อยลงนิดนึงก็พอ ไม่เป็นการทำลายความสุขตัวเองและยังช่วยลดน้ำหนักได้ดีอีกด้วย

3 ออกกำลังกาย
เมื่อพูดถึงการออกกำลังกาย สาว ๆ หลายคนอาจทำหน้าเซ็ง นึกถึงความเหนื่อยหนักยุ่งยาก และการฝืนใจ แต่ถ้าอยากหุ่นดีจริงๆ ลองเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ หากิจกรรมอย่างอื่นที่ช่วยให้คุณมีหุ่นผอมเพรียว แข็งแรง และสนุกไปพร้อม ๆ กัน อย่างเช่น การปั่นจักรยาน กีฬาริมชายหาด ล้างรถ เป็นต้น หรือถ้าไม่อยากออกไปไหน อยู่บ้านว่าง ๆ ไม่มีอะไรทำจะชวนแฟนหนุ่มเล่นจ้ำจี้ด้วยก็ยังได้นะ อันนี้รับรองหุ่นฟิตแอนด์เฟิร์มทีเดียว

4 เดินสูดอากาศนอกบ้าน
ไม่ใช่วิธีที่ยุ่งยากอะไรเลย ถ้าวันไหนแดดร่มลมตก อากาศดีๆ ลมพัดสบายๆ ลองออกไปเดินสูดอากาศนอกบ้านดูบ้างเป็นไง ถ้าไม่มีเวลามากพอ เดินสัก 10 นาที แค่ทำใจให้สบายๆกับอากาศดีๆ ก็ช่วยได้เยอะแล้วนะ

5 อย่าตามใจปาก
ห้ามยากอยู่นะ บางคนอดใจไม่ไหว เห็นแล้วมันอยากกะสวาปามให้เรียบ โดยเฉพาะกับอาหารแคลอรีสูงทั้งหลายที่คุณชอบ เค้กเอย ขนมหวาน พิซซ่า สปาเกตตี้ พวกนี่แหละตัวดีเลย แต่ถ้าอยากทานจริง ๆ ก็พยายามเลือกที่ทำด้วยชีสไขมันต่ำหรือพวก low-fat ก็พออนุโลมได้

6 ดื่มน้ำเยอะๆ ในแต่ละวัน
เป็นวิธีง่ายๆ เพราะผลการวิจัยบอกว่า น้ำจะช่วยเร่งระบบเผาผลาญ แถมหากดื่มน้ำก่อนมื้ออาหารเที่ยงยังช่วยให้เราทานอาหารได้น้อยลงด้วย เราควรดื่มน้ำเปล่าให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว จะดีมากๆ

7 หาเพื่อนที่กำลังลดความอ้วนเหมือนกัน
หาใครสักคนนึงที่กำลังอยากลดน้ำหนักหรืออยากมีหุ่นสลิมเชฟเหมือนกัน ทานไปด้วยกัน ควบคุมน้ำหนักด้วยกัน ทำกิจกรรมหลายๆอย่างไปพร้อมๆกัน จุดประสงค์เดียวกันสองแรงแข็งขันจะทำให้เกิดแรงกระตุ้นให้สามารถเอาชนะความ อ้วนได้แบบคูณสองเลยนะเนี่ย!!

8 เต้นไปพร้อมกับฟังเพลง
อย่านั่งฟังเพลงเฉย ๆ ลุกขึ้นมาเต้นตามจังหวะเพลงโปรดไปด้วยดีกว่า จะเต้นท่าไหนยังไงก็ตามแต่คุณถนัด พยายามเต้นให้ได้อย่างน้อย 15 นาที ก็ไม่มากนะ แค่ 4-5 เพลงเองจริงม่ะ

9 เลือกจานข้าวใบเล็ก ๆ ก็พอ
ยิ่งพื้นที่จานเล็กเท่าไหร่ คุณก็จะทานอาหารได้น้อยกว่าจานใหญ่แน่นอน แม้จะเป็นอาหารชนิดเดียวกัน หากนึกภาพไม่ออกลองคิดง่าย ๆ เวลาทานอาหารจานหนึ่งหมดแล้ว เราจะรู้สึกว่า กินหมดจานและอิ่มดีกว่า นั้นเท่ากับเราไม่ได้ทานเยอะไงล่ะ นอกจากว่าเราจะก็ขอเบิ้ลจานที่สองหรือเติมข้าวเพิ่ม อันนั้นก็อ้วนอยู่ดี อิอิ

10 อย่าปล่อยให้ตัวเองว่าง
หากิจกรรมอย่างอื่นทำซะ อาจจะดูโทรทัศน์ ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ ทำงานบ้าน เลือกกิจกรรมที่ทำให้คุณแฮปปี้ เพราะถ้าคุณปล่อยตัวเองให้ว่าง อาจเกิดความรู้สึกเบื่อ ทีนี้ล่ะ คุณจะเริ่มหันไปหาของกินแล้ว อ้วนแน่ๆรับรอง!!

ที่มา: women.sanook.com

ดื่ม "คอลลาเจนผง" แล้วเต่งตึงขาวจั๊วะ เรื่องจริงหรือเพ้อไปเอง


ความขาวแบบง่ายๆ มักครองใจคนรุ่นใหม่เสมอ เทรนด์ใหม่ล่าสุด! คอลลาเจน (Collagen) ในรูปแบบผง 1 ซองต่อ 1 วัน จึงตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ซองเดียวชงกับน้ำ หรือเติมในอาหารรับประทานง่าย

"ผิวขาว หน้าใส เร่งด่วน เห็นผลภายใน 1 สัปดาห์ !! โดดเด่นด้วยคอลลาเจนเข้มข้น ไม่ต้องฉีดปลอดภัย 100%"

นี่คือตัวอย่างคำโฆษณาสรรพคุณของเจ้าคอลลาเจนผง สาวกความขาวจึงแห่ซื้อมากินเพราะหวังว่าจะขาวและเต่งตึงได้ประโยชน์ 2 เด้ง

คอลลาเจนผงไร้ประโยชน์ ไม่ดูดซึม เปลือง!

คอลลาเจนผง ไม่มีประโยชน์ แทบจะไม่ได้ดูดซึมอะไรเลย จะถ่ายทิ้งออกมาหมด เปลือง" นพ.ปิยะวงศ์ เศรษฐวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก Skeyndor Clinic กล่าว

"ถามว่า ทำไมคอลลาเจนผงถึงกำลังเป็นที่โด่งดัง คงจะเป็นเรื่องของการมาร์เก็ตติ้งมากกว่าครับ เพราะสารส่วนใหญ่ที่ออกฤทธิ์จะโดนกรดในกระเพาะทำลายหมด ยกเว้นวิตามินบางชนิดเท่านั้นเท่านั้นเอง

ถ้าจะได้ผล คอลลาเจนต้องฉีดเข้าไป หรือเป็นการใช้ทาข้างนอกและใช้เครื่องมือพิเศษผลักไอออนให้คอลลาเจนเข้าไป หรือมีเลเซอร์บางตัวไปกระตุ้น ไปสั่นเพื่อให้คอลลาเจนเกิดการกระตุ้น ปลุกให้คอลลาเจนตื่นตัว เพราะตอนนี้มันหลับอยู่ พอเข้าไปกระตุ้นมันก็จะตื่นนั่นเอง

 และคอลลาเจนสามารถสร้างเพิ่มขึ้นมาได้ เช่น การร้อยไหม หรือการใช้เครื่องเลเซอร์ผลักหรือกระตุ้น จะทำให้คอลลาเจนตื่นตัวได้"

คุณหมอย้ำว่า "แต่ถ้าใช้กิน ไม่ค่อยเวิร์ก ไม่แนะนำ" พร้อมอธิบายต่อว่า คอลลาเจนไม่ได้ทำให้ขาวหรอก แต่เป็นเพราะสารตัวอื่นมากกว่าซึ่งผลข้างเคียงเพียบ

 "การกินแล้วแล้วขาวนั้น อาจจะเป็นเพราะการผสมกลูตาไธโอน หรือผสมสารปรอท ซึ่งสารปรอทนี่ขาวแน่นอน แต่ผลข้างเคียงเยอะมาก ทำให้ตับ ไต พังหมดเลยครับ ในระยะสั้นขาวจริง แต่ในระยะยาวเป็นผลเสียต่อร่างกายมาก ระยะยาวนั้นถ้าเป็นคนไข้ที่ไม่ได้มีโรคประจำตัว เช่น ตับไม่ได้วาย ไตไม่ได้วาย อาจจะราวๆ 1 ปี ติดต่อกันไตจะเกิดอาการวาย"

ดังนั้นการทานคอลลาเจนผง คุณหมอฟันโช๊ะว่า กินแล้วไม่ได้ขาวใสปิ๊งขึ้นหรอก แต่เป็นเรื่องของ "การคิดไปเอง”มากกว่า

"ถ้าไม่ได้มีปัญหาเรื่องของการเงิน ถ้าซื้อได้ กินได้ รู้สึกดี ก็กินครับ ผมว่ามันเป็นเรื่องของสุขภาพจิตด้วยนะ ถ้ากินแล้วรู้สึกดี รู้สึก healthy ราคารับไหว กินแล้วไม่ได้มีผลข้างเคียงอะไร ตรวจดูแล้วไม่ได้มีสารปรอท ไม่มีสารเคมีอื่นตกค้างก็สามารถกินได้ ก็ไม่ได้เป็นเรื่องต้องห้ามอะไร

แต่ถ้ากินแล้วจะหวังผลว่ามันจะต้องได้อย่างนั้นขาวได้อย่างนี้ก็คงไม่ใช่จุดประสงค์ เพราะการกินคอลลาเจนผงไม่ได้กระตุ้นให้ขาวได้จึงบอกไม่ได้ว่าทานกี่มิลลิกรัมต่อวันแล้วจะขาว น่าจะเป็นส่วนของกลูต้าไธโอนบวกกับวิตามินซีมากกว่า"

ที่มา: www.manager.co.th

Wednesday, February 5, 2014

กินจุบจิบยังไงไม่ให้อ้วน


เมื่อคิดว่าอ้วนก็ไม่กล้าที่จะกินจุบจิบจริงไหมคะ แต่เชื่อเหอะสาวๆ จำนวนไม่น้อยเลยละที่อดใจไว้ไม่อยู่ถึงรู้ว่ากินแม้เพียงเล็กน้อยในวันนี้จะทำให้ฉันอ้วนเป็นหมูตอนก็เถอะ และก็คิดในใจว่าพรุ่งนี้ค่อยเริ่มใหม่พรุ่งนี้ค่อยทำก็ได้ วันนี้ของโปรดอยู่ตรงหน้าและไม่ได้มีบ่อยๆ ด้วยใช่ไหมละค่ะ แล้วคิดอย่างงี้ก็มีของโปรดแบบใหม่ๆ มาให้เจอกันทุกวันซิน่า ทีนี้ละลดไม่ลงกันและทีนี้ ฮ่าๆๆๆ เอาเถอะแต่ถึงแม้ว่าจะทำให้ฉันอดใจไม่อยู่ ทำใจไม่ได้เท่าไหร่ก็ตาม แต่วันนี้เรามีทางออกใหม่ๆ สำหรับสาวๆ ที่ชอบกินจุบจิบโดยไม่อ้วนมาฝากกันคะ

กฎเหล็ก กินจุบจิบยังไงก็ไม่อ้วน!

กฎของการกินของว่างไม่ให้อ้วน คือ กินไม่เกิน 100 แคลอรี่ ต่อ 1 ชั่วโมงก่อนถึงเวลาอาหาร แต่ควรเลือกกินคาร์โบไฮเดรตที่มีเส้นใยสูง เช่น ผลไม้ เป็นหลัก จากนั้นก็ค่อยเพิ่มโปรตีนหรือไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เพื่อให้อิ่มได้นานขึ้น เช่น

ถ้าอีก 1 ชั่วโมง จะถึงเวลาอาหารมื้อต่อไป ก็ให้ทานแอบเปิ้ลขนาดกลาง 1 ผล

ถ้าอีก 2 ชั่วโมง จะเป็นเวลาอาหารมื้อต่อไป ให้ทานแอบเปิ้ลขนาดกลาง 1 ผล กับเนยถั่ว 1 ช้อนโต๊ะ

ถ้าอาหารมื้อต่อไปจะได้เวลาในอีก 3 ชั่วโมง ให้ทานแอบเปิ้ลขนาดกลาง 1 ผล  เนย ถั่ว 1 ช้อนโต๊ะ และแคร็กเกอร์ธัญพืช 5 แผ่น

และถ้าอาหารมื้อต่อไปจะมาถึงในอีก 4 ชั่วโมง ก็ให้ทานแอบเปิ้ลขนาดกลาง 1 ผล เนยถั่ว 1 ช้อนโต๊ะ แคร็กเกอร์ธัญพืช 5 แผ่น และนมสดชนิดพร่องไขมัน 1 แก้ว

สำหรับผู้ที่ทานมังสวิรัติ ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการบริโภคอาหารเสริมธาตุเหล็กด้วย เพราะธาตุเหล็กที่ได้จากผักและผลไม้ ส่วนมากร่างกายจะดูดซึมได้ยาก

เป็นเรื่องธรรมชาติที่ใคร ๆ ก็ต้องการมีรูปร่างที่ดูดี ฉะนั้น ใครที่ชอบกินจุบจิบ แต่ไม่อยากอ้วนก็ลองกินตามที่เราแนะนำดูนะคะ...

ที่มา: www.n3k.in.th

เรื่องน่ารู้ โทษของการดื่มน้ำมากเกินไป


สาวๆ คงรู้กันดีว่าน้ำในมีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยในแต่วันเรานั้นควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้วต่อวัน เพื่อผิวพรรณที่สวยงาม เปล่งปลั่ง และสุขภาพที่แข็งแรง สมบูรณ์ทั้งภายในและภายนอก แต่การดื่มน้ำมากเกินไปนั้น ก็ให้โทษได้เช่นกันคะ

เมื่อเร็ว ๆ นี้กระทรวงสาธารณะสุขออกมาเตือนว่า การดื่มน้ำที่ดีควรดื่มแบบจิบเรื่อย ๆ ไม่ใช่ว่าดื่มรวดเดียวหลาย ๆ แก้ว เพราะนั้นจะไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ เพราะร่างกายของเราประกอบไปด้วยน้ำถึง 70% อยู่แล้ว และเมื่อไหร่ที่ร่างกายได้รับน้ำเพิ่มเข้าไปในร่างกายอย่างรวดเร็วจะทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า "น้ำเป็นพิษ"

ภาวะนี้เกิดขึ้นเพราะร่างกายได้รับน้ำมากเกินไปจนน้ำในเซลล์และนอกเซลล์เกิดการขาดความสมดุลกันส่งผลให้น้ำในเลือดสูง ทำให้ความเข้มข้นของเลือดลดลงส่งผลทำให้ร่างกายต้องปรับสมดุลด้วยการขับแร่ธาตุอย่างโปสแตสเซียมออกไป ซึ่งพอขาดแร่ธาตุตัวนี้จะส่งผลให้ร่างกายอ่อนแรงเป็นตะคริว กล้ามเนื้อเกร็ง บางคนเป็นมากถึงทำให้เกิดอาการเกร็งในสมองจนทำให้ปอด หัวใจ และระบบทางเดินหายใจล้มเหลว ซึ่งถ้าถึงจุดนี้คุณอาจเสียชีวิตได้เลยนะคะ

เพราะฉะนั้นทางที่ดีควรดื่มน้ำแต่พอดี เพื่อให้สิ่งที่ดื่มเข้าไปเกิดประโยชน์ไม่ใช่เกิดผลร้ายแก่ร่างกาย ดื่มน้ำอย่างถูกวิธีจะช่วยให้สุขภาพดีตามไปด้วยค่ะ

ที่มา: www.n3k.in.th

Saturday, February 1, 2014

อาหารเพื่อผิวสวย หน้าใส


วันนี้เรานำ 6 อาหารเสริมที่ช่วยบำรุงผิวมาฝากกันคะ  นอกจากจะทำให้สาวๆ มีผิวพรรณเปล่งปลั่งดูสุขภาพดีจากข้างในแล้ว ยังช่วยให้ผิวขาวขึ้นอย่างได้ผลจนคนรอบข้างต้องแปลกใจกันเลยทีเดียวละคะ

1. โปรตีนจากปลาทะเลลึก (Marine Protein) แถบประเทศนอร์เวย์ประกอบด้วยอณูอะมิโนจำเป็นต่อร่างกาย 18 ชนิด และมีอณูอะมิโนชนิดพิเศษคือ Peptoaminoglycan ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนและอิลาสตินทั้งด้านปริมาณและคุณภาพอันจะช่วยให้ผิวแต่งตึง เปล่งปลั่ง กระชับ เรียบเนียน และนวลนุ่มชุ่มชื่น

2. โคเอ็นไซม์คิวเทน (Coenzyme Q 10) สารอาหารช่วยเสริมพลังงานให้กับเซลล์ผิวต้านอนุมูลอิสระต้นเหตุของการเสื่อมสภาพและแก่ก่อนวัยของเซลล์ต่าง ๆ ทั้งยังช่วยลดและชะลอริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัยที่เกิดจากแสงแดดช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์สดใสมีชีวิตชีวา

3. สารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ฝรั่งเศส (French Maritime Pine Bark) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระอย่างยิ่งยวด (Super Antioxidant) ช่วยต้านความชราของผิวพรรณยับยั้งการเกิดเม็ดสีที่ผิดปกติต้นเหตุของฝ้า กระ ความหมองคล้ำ ทำให้ผิวขาวเนียนสดใส และมีเลือดฝาด

4. วิตามินซี (Vitamin C) สารต้านอนุมูลอิสระลดอาการหมองคล้ำ ความร่วงโรย เสริมสร้างปริมาณและความแข็งแรงของคอลลาเจน ช่วยให้โครงสร้างผิวพรรณแข็งแรงสุขภาพดีมีความยืดหยุ่นกระชับและขาวเนียนใส

5. วิตามินอี (Vitamin E) สารต้านอนุมูลอิสระอีกตัวหนึ่งยับยั้งความเสื่อมชราของเซลล์ต่าง ๆ ช่วยให้ผิวพรรณเนียนนุ่มชุ่มชื่น สดใสและดูอ่อนวัย

6. สารสกัดจากชาเขียว (Green Tea Extract) มีสาระสำคัญคือ คาเตซินช่วยต้านอนุมูลอิสระทำให้กลไกในการฟื้นฟูสภาพผิวทำงานได้ดีสามารถขับถ่ายและล้างพิษออกจากร่างกายได้เร็วขึ้น
กฎเหล็กดูแลผิวสวย ทุกครั้ง

ผู้หญิงทุกคนก็คงอยากจะอวดผิวสาวที่ขาวนวล เปล่งปลั่ง เรียบเนียน และมีชีวิตชีวาแก่สายตาทุกคู่ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว  เพียงรับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมทั้ง 6 ชนิดดังที่กล่าวมา ร่วมกับกฎเหล็กในการดูแลความงามเหล่านี้

- อาบน้ำทุกเช้า-เย็น เพื่อปลุกเซลล์ผิวให้ตื่นตัวเปล่งปลั่ง
- ทามอยส์เจอไรเซอร์และครีมกันแดดขณะผิวหมาดจะทำให้โลชั่นซึมซาบสู่ผิวได้ดี
- กันหรือถอนคิ้วหลังอาบน้ำผิวจะอ่อนนุ่มรูขุมขนเปิดกว้างช่วยให้ถอนได้ง่ายขึ้น
- ลงรองพื้น 10 นาทีหลังอาบน้ำ เพราะน้ำมันตามธรรมชาติจะซึมออกจากผิวนิด ๆ ช่วยให้เกลี่ยรองพื้นได้ง่ายขึ้น
- แต่งตาควรปัดมาสคาร่าเป็นอันดับแรก เมื่อขนตาดูเข้มจะทำให้ใช้อายแชโดว์น้อยลงใบหน้าก็จะดูงดงามเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น
- ทาครีมบำรุงช่วงเวลา 3-4 ทุ่ม เป็นเวลาที่ผิวซ่อมแซมตัวเองรูขุมขนเปิดกว้างช่วยให้เนื้อครีมและโลชั่นซึมสู่ผิวได้ดีกว่าปกติ
- สร้างวินัยในการออกกำลังกาย หาเวลาทำกิจกรรมหรือออกกำลังกาย 15-30 นาทีทุกวัน
- ควบคุมการรับประทานให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการ หลักง่ายๆ ก็คือในแต่ละมื้อควรมีผักและผลไม้อยู่ครึ่งหนึ่งของอาหารที่รับประทานและดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว
- พักผ่อนเพียงพอ ด้วยการนอนหลับลืมเรื่องราวความเครียดต่าง ๆ ก่อนเข้านอนสงบจิตใจด้วยการละวาง

และเพียงแค่ 4 สัปดาห์แรก สาวๆ ก็จะสามารถสัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงจากผิวที่เคยหมองคล้ำแห้งกร้านขาดความชุ่มชื้น สู่ผิวที่ขาวเนียนสดใสเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลแลดูอ่อนวัยได้อย่างชัดเจนคะ

ที่มา: webboard.ladytips.com