เชื่อว่าหลายๆคนเคยได้ยินโปรแกรมฝึกแบบ Circuit Training แต่ฝึกแบบนี้มันต่างจาก Weight Training ยังไง? เล่นแบบไหน กินเหมือนกันไหม?
การออกกำลังกายแบบ Circuit training เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยเพิ่มความหลากหลาย และเป็นอีกทางเลือกที่สามารถช่วยเพิ่มความสนุก รวมถึงความท้าทายที่ทำให้การออกกำลังกายไม่น่าเบื่อ จุดประสงค์หลักของการทำ Circuit training เป็นการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องโดยใช้อุปกรณ์หรือท่าทางในการออกกำลังกายหลายๆ แบบเรียงตามลำดับตามเครื่อง หรืออาจจะเรียกว่าสถานีก็ได้ โดยให้มีเวลาในการพักระหว่างสถานีน้อยที่สุด ซึ่งประโยชน์หลักๆ ที่จะได้จากการ ออกกำลังกายในลักษณะนี้ นอกเหนือจากความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ แล้วยังรวมถึงระบบการทำงานของหัวใจ และปอด ด้วย การออกกำลังกายในลักษณะนี้ยังเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา หรือหาเวลายากใน การออกกำลังกาย เพราะวิธีการนี้สามารถใช้เวลาตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดเพียง 30-45 นาทีเท่านั้น แต่ได้ประโยชน์ดังที่กล่าวมาข้างต้น
หลักการพื้นฐานของ Circuit training การออกกำลังกายแบบนี้ อาจเรียกว่าเป็นการฝึก เริ่มจากการกำหนดจำนวนของอุปกรณ์ หรือท่าทางในการออกกำลังกาย โดยเลือกให้มีความหลากหลายสามารถออกกำลังกายกล้ามเนื้อหลายๆ ส่วนทั่วทั้งร่างกายได้ภายในคราวเดียว และเริ่มจากกล้ามเนื้อมัดใหญ่ของ “Aerobic weight training” ร่างกายไปจนมัดเล็ก ส่วนมากจะมีการออกกำลังกายได้ตั้งแต่ 8-12 เครื่อง อาจเรียงลำดับของเครื่องในลักษณะให้มีการออกกำลังกายในกล้ามเนื้อตรงข้าม เช่น ต้นขาด้านหน้า-ด้านหลัง กล้ามเนื้อหน้าท้อง-กล้ามเนื้อหลัง หรือกล้ามเนื้อต้นแขนด้านหน้า-ด้านหลังเป็นต้น หรือเป็น การออกกำลังกายที่มีลักษณะสลับกันระหว่างการ push-pull เช่น- leg press-leg curl, chest press-lat pull down, shoulder press-seated row, triceps press-biceps curl เป็นต้น โดยมีการใช้ระยะเวลาโดยประมาณตั้งแต่ 30 วินาที ไปจนถึง 1-3 นาทีในแต่ละเครื่อง น้ำหนักที่ใช้ไม่ควรหนักมากจนเกิดอาการล้า อาจจะกำหนดแต่ละสถานีเป็นระยะเวลา หรือจำนวนครั้งในการยก (reps) ก็ได้ และใช้เวลาในการพักระหว่างสถานีไม่เกิน 15-30 วินาที ให้มีการออกกำลังกายประมาณ 1-3 เซต โดยให้ออกกำลังกายในแต่ละเครื่องเรียงตามลำดับเพียงหนึ่งเซต หลังจากครบทุกเครื่องแล้วให้วนออกกำลังกายซ้ำอีก 1-2 เซต ขึ้นอยู่กับความต้องการ ถ้าหากเลือกการออกกำลังกายแบบ circuit training ซึ่งผสมผสานทั้ง strength training และ cardio การทานจะอาหารจะแตกต่างออกไป ซึ่งต้องทานทั้งโปรตีน และคาร์โบไฮเดรตในเวลาที่ต่างกัน โดยอาหารก่อนออกกำลังกาย จะแนะนำทานโปรตีน ระยะเวลาประมาณ 2-3 ชม.ก่อนเริ่มการออกกำลังกาย และทานของว่างมื้อเล็กๆที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงแต่มีไขมันต่ำ ในระยะเวลาประมาณ 30 นาที-1ชม.
หลังจากออกกำลังกาย 30 นาที – 1 ชม. ให้ทานคาร์โบไฮเดรต และโปรตีนเป็นสัดส่วน 3:1 เพื่อป้องกันการสูญเสียของกล้ามเนื้อหลังจากออกกำลังกาย และควรดื่มน้ำมากๆ เช่นเดียวกันกับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ หลังจากนั้นอีก 3-4 ชม. ให้ทานอาหารที่ให้พลังงานปานกลางตามปรกติ โดยอาหารควรปรุงด้วยกรรมวิธีการ นึ่ง ต้ม ย่าง อบ เผา หลีกเลี่ยงอาหาร ไขมันมันสูง เค็มจัด หวานจัด และควรกะปริมาณให้เหมาะสมกับกิจกรรมที่เราทำ โดยไม่เข้าข้างตัวเอง ไม่จัดหนักให้รางวัลเมื่อออกกำลังกายเสร็จ แต่ควรทำให้ได้ตามแผนการทานอาหารที่วางไว้อย่างเคร่งครัด ไม่ยากใช่มั๊ยคะ งั้นมาลองเริ่มกันเลยตั้งแต่วันพรุ่งนี้ดูเป็นไง?
All about wellness and activities such as พิลาทิส pilates bangkok or YogaFly Bangkok โยคะ ฟลาย, everything about diets and athletic lifestyle. Our studio The Balance Pilates Studio & YogaFly offers you the best equipment and the best professionals in Thailand. We are specialist in weight loss and in back problems and the problems of a your workstation as is "Office Syndrome"
Showing posts with label dirtybfitness. Show all posts
Showing posts with label dirtybfitness. Show all posts
Wednesday, September 23, 2015
ฝึกแบบ Circuit Training แต่ฝึกแบบนี้มันต่างจาก Weight Training ยังไง? เล่นแบบไหน กินเหมือนกันไหม?
Subscribe to:
Comments (Atom)