Thursday, January 30, 2014

กินอย่างไรให้สวย


กินอย่างไรให้ "สวย"  (at office)
โดย : อ.ประณม  ถาวรเวช

บุคลิกภาพที่ดีเริ่มต้นจากสุขภาพที่ดี และสุขภาพที่ดีก็เริ่มต้นจากการกินที่ดี วันนี้เรามีเคล็ดลับ "กินให้สวย" มาฝากกัน ลองปฏิบัติดังนี้

สิ่งที่ควรเลือกรับประทานเป็นอย่างแรก ๆ ในทุก ๆ มื้ออาหาร

ผลไม้  มีงานวิจัยที่แนะนำว่าให้กินผลไม้อย่างน้อย 5 ส่วนในแต่ละวัน เพราะมีคุณประโยชน์ในการช่วยป้องกันโรคหัวใจและมะเร็งบางประเภทได้ แต่ต้องเป็นผลไม้ที่ไม่หวานจัด ไม่มีแป้งหรือน้ำตาลมาก เพราะจะทำให้อ้วนและได้รับน้ำตาลเกินความต้องการของร่างกายได้

กรดไขมันที่จำเป็นสำหรับร่างกาย (Essential fattyacids)  หรือที่รู้จักกันว่าเป็นไขมันส่วนที่ดี จะเข้าไปช่วยทำให้ผิว ผม และเล็บดูแข็งแรง

ควรเลือกดื่มชาเขียว  ด้วยเหตุผลเดียวกับกระเทียมคือมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ป้องกันมะเร็งบางชนิด ทั้งยังเพิ่มภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย

อย่าลืมดื่มนม  เพราะเป็นแหล่งแคลเซียมและวิตามินดี เป็นประโยชน์ต่อกระดูกและฟัน ป้องกันโรคกระดูกผุ

ถั่วเหลือง  ก็มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันมะเร็ง พร้อมทั้งมีวิตามินอี และกรดอะมิโน ที่ช่วยให้ผิวเรียบลื่น ยืดหยุ่นด้วย

วิตามินซี จะกระตุ้นภูมิคุ้มกันและช่วยให้ร่างกายต่อสู้โรคภัยได้ วิตามินซียังเป็นกุญแจสำคัญให้ร่างกายสร้าง คอลลาเจน อันเป็นสารเคมีที่ทำให้ผิวหนังยืดหยุ่นและปราศจากรอยย่นอีกต่างหาก

ช็อกโกแลต  เป็นหนึ่งในอาหารที่จะช่วยให้คงความงามไว้ได้ เพราะว่าในช็อกโกแลตมีสารที่กระตุ้นเอนโดร์ฟิน และเซโรโทนิน ฮอร์โมนทั้ง 2 ทำให้มีอารมณ์ดี มีความสุข คนจะแลดูสวยได้ก็ต้องรู้สึกสวย รู้สึกดีเสียก่อน

ดื่มน้ำ  เพราะน้ำจะช่วยให้แลดูอ่อนเยาว์ ผมเปล่งประกาย นุ่มสลวย น้ำยังช่วยขับของเสียและสารพิษออกจากร่างกายอีกด้วย

อโวคาโด  เจ้าผลไม้มหัศจรรย์นี้ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระสนับสนุนการผลิตเส้นใยคอลลาเจนของผิวหนังให้เรามีผิวสวยใส ปริมาณที่เหมาะสมคือบริโภคให้ได้สัปดาห์ละครั้ง หากชอบหวานก็เติมน้ำผึ้งลงไปเล็กน้อย และจำไว้ว่าอโวคาโดอุดมไปด้วยน้ำมันธรรมชาติที่มีประโยชน์ยิ่ง

แครอท พืชชนิดนี้อุดมด้วยวิตามินเอช่วยบำรุงสายตาและผิวหนัง เคล็ดลับคือให้เลือกซื้อแต่แครอทปลอดสารพิษและควรปอกเปลือกก่อนบริโภคเพื่อความมั่นใจ เพราะแครอทเป็นพืชที่ชาวไร่ต้องใช้ยาฆ่าแมลงปริมาณมากในการเพาะปลูก

วิตามินจำเป็นต่าง ๆ  เพื่อให้แน่ใจว่าวันหนึ่ง ๆ ร่างกายเราได้รับวิตามินอย่างพอเพียง อาหารที่มีขั้นตอนการปรุงซับซ้อนหรือวิธีการเก็บรักษาทำให้สูญเสียคุณค่าธรรมชาติของอาหารไป ส้มตามซูเปอร์มาร์เก็ตเดี๋ยวนี้มีวิตามินซีเหลือเพียง 60% เพราะสูญหายไปในขั้นตอนการเก็บเกี่ยว ดังนั้น ควรบริโภควิตามินเสริมให้ร่างกายได้สารอาหารเพียงพอ

แอปเปิ้ล วันละผล  ผลไม้นี้อุดมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น เพคติน วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส และแมกนีเซียม ช่วยขจัดมลพิษ ลดคอเลสเตอรอลและยังช่วยระบบการทำงานของปอดด้วย

พืชเรียกน้ำตา  หอมและกระเทียม ช่วยฟื้นฟูระบบการไหลเวียนของโลหิต ช่วยล้างพิษได้ดีที่สุด ป้องกันโรคหอบหืด

อย่าลืม โยเกิร์ต  อาหารสูตรสุขภาพตั้งแต่โบราณ ในโยเกิร์ตมีแบคทีเรียสองชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อระบบการย่อย คือ แลคโตบาซิลัส และเอซิโดฟิลลัส ช่วยฟื้นฟูการทำงานของลำไส้ ลดการสะสมของแก๊สในกระเพาะทำให้ท้องไม่อืดและร่างกายดูดซึมอาหารได้ดีขึ้น

มันฝรั่ง  หากต้องการอาหารที่อุดมด้วยไฟเบอร์ วิตามินบี 3 วิตามินซีและโปแตสเซียมล่ะก็ มันฝรั่งมีให้ครบทุกอย่าง วิธีดีที่สุดของการบริโภคก็คือการอบและบริโภคทั้งเปลือกจะได้โภชนาการที่ดีกว่า และหากต้องการเนยกับซาวครีมช่วยให้รสชาติดีขึ้นสักเล็กน้อยก็ไม่ผิดกติกา

ไฟเบอร์  มีประโยชน์และช่วยระบบย่อยอย่างมาก ช่วยให้อิ่มเร็วและไม่บริโภคอาหารอื่น ๆ เข้าไปมากเกินความจำเป็น ไฟเบอร์ช่วยชะลอความชรา ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและลดปริมาณแอสโตรเจนในกระแสเลือดซึ่งเป็นสาเหตุการเกิดมะเร็ง แหล่งไฟเบอร์ที่ดีคือผักและผลไม้สด ธัญพืช มันฝรั่งและขนมปังโฮลวีท แต่ก็ไม่ควรบริโภคมากเกินไป เพราะจะทำให้ท้องอืดและมีผลต่อระบบลำไส้ ควรเริ่มบริโภคน้อย ๆ และค่อย ๆ เพิ่มปริมาณขึ้นจะเหมาะกว่า

ผักสดต่าง ๆ ดีต่อเส้นผม ผิวหนัง นัยน์ตาและระบบอื่น ๆ ของร่างกาย ควรพยายามบริโภคผักสด ๆ ให้มาก โดยเฉพาะผักใบเขียวเข้มและผักสีสดต่าง ๆ สี หากต้องการพัฒนาความจำควรบริโภคกะหล่ำปลีต้มทุกมื้อกลางวันและเย็นจะช่วยได้ดี

น้ำผลไม้ช่วยผิวสวย  การดื่มน้ำผลไม้ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารดี ๆ ได้เร็วที่สุด เพิ่มความสดชื่นในฉับพลัน น้ำผลไม้ผสมที่ดีที่สุดก็คือน้ำแอปเปิ้ล แครอทและบีทรูท ทั้ง 3 ชนิดนี้ผสมกันอย่างละ 1 ส่วน แต่ก็ควรระลึกไว้ว่า น้ำผลไม้ไม่มีไฟเบอร์มากเท่ากับการบริโภคผักผลไม้สด ๆ ดังนั้น ก็ควรบริโภคผักผลไม้สดวันละจานเป็นอย่างน้อย

ปลาเพื่อสุขภาพ  โดยเฉพาะปลาที่อุดมด้วยไขมันโอเมก้า 3 เช่น แซลมอล แมคเคอเรลและทูน่า ทั้งหมดนี้มีไขมันช่วยระบบการทำงานของเซลล์ผิวหนัง ลดความดันโลหิต การบริโภคปลาสัปดาห์ละครั้งจะลดความเสี่ยงโรคหัวใจลงได้ถึง 50% แคลเซียมจากปลายังมีประโยชน์ต่อผิวหนัง กระดูกและฟันอีกด้วย

อย่าลืม ถั่วต่างๆ ถั่วอุดมด้วยสารอาหารมีประโยชน์เช่นเดียวกับผักและผลไม้สด เป็นของขบเคี้ยวยามว่างที่อุดมด้วยโปรตีน วิตามินบี 1 และแมกนีเซียม ซึ่งมีผลดีต่อระบบประสาท หากไม่ชอบถั่วก็เปลี่ยนเป็นเนยถั่วหรือนมถั่วเหลืองแทน เลี่ยงจากถั่วอบเกลือซึ่งจะเคี้ยวเพลินจนโซเดียมในร่างกายสูงเกินไป ถั่วที่แนะนำคือฮาเซลนัทที่มีโปรตีนสูงที่สุด บราซิลนัทมีเซเลเนียมสูงช่วยชะลอความชราได้ดี

ไข่เพื่อสุขภาพ  อาหารชนิดนี้อุดมด้วยโปรตีน แคลเซียมเหล็ก สังกะสีและวิตามินบี 3 สิ่งที่ควรระวังก็คือ หากเป็นไข่เก่าอาจมีแบคทีเรียซาลโมเลลาที่เป็นสาเหตุของอาหารเป็นพิษได้ ดังนั้นควรเลือกซื้อไข่ไก่สดใหม่ที่ปลอดสารพิษและไม่ควรบริโภคไข่ดิบ ๆ

เลือก ไก่ ดีที่สุด  ไม่ว่าใครจะบอกว่าอย่างไร ไก่ก็เป็นอาหารที่มีไขมันต่ำที่สุดในเนื้อสัตว์ทั้งหมด และยังมีวิตามินสูงด้วย  และยิ่งลอกหนังออกด้วยแล้ว ก็จะปลอดภัยมากขึ้น

บร็อคโคลี่ นอกจากจะช่วยป้องกันมะเร็งแล้ว ยังช่วยทำความสะอาดร่างกาย และอุดมด้วยธาตุเหล็กและสารต้านอนุมูลอิสระ

กินแบบป๊อปอายกันดีกว่า  เรียนรู้ที่จะรัก โอลีฟ ออยล์ หรือน้ำมันมะกอก ซึ่งอุดมด้วยคอเลสเตอรอลชนิดดี ช่วยป้องกันมะเร็งและโรคของหัวใจ พรมน้ำมันนี้ลงในน้ำสลัดเล็กน้อยก่อนบริโภคทุกครั้ง

พริกมีประโยชน์  พริกทุกชนิดอุดมด้วยวิตามินซี โดยเฉพาะพริกแดงและเหลือง มีวิตามินซีมากกว่าส้มถึง 4 เท่า วิธีบริโภคให้ได้ประโยชน์สูงสุดคือกินสด ๆ จะช่วยให้สุขภาพดีของผิวหนัง เหงือกและเส้นผม

กล้วยช่วยสุขภาพ  ดีที่สุดหากกินตอนสุก กล้วยอุดมด้วยโปแตสเซียมและวิตามินซี ช่วยป้องกันแผลพุพองของผิวหนัง ลดคอเลสเตอรอล และช่วยขจัดพิษจากโลหะที่สะสมค้างอยู่ในร่างกาย เหมาะที่จะเลือกเป็นอาหารเช้า

ที่มา: health.kapook.com

No comments:

Post a Comment