Wednesday, October 30, 2013

เคล็ดลับการดื่มไวน์เพื่อสุขภาพ


อันที่จริงแล้วไวน์มีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด อาวุธในการต่อสู้กับความชราไม่จำเป็นต้องเป็นการฉีด Botox หรือการทาครีมบำรุงผิวเสมอไป

และบางทีอาจจะไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อให้ดูอ่อนเยาวน์ขึ้น เพราะเพียงจิบไวน์วันละเล็กน้อยก็สามารถช่วยคุณได้

มีการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องไวน์และ antiaging หรือการต่อสู้กับความชราเพื่อคงความอ่อนเยาวน์โดยนายแพทย์ Richard A. Baxter ที่สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นผู้เขียนหนังสือชื่อ Age Gets Better with Wine ได้ศึกษาประโยชน์ของไวน์ต่อสุขภาพ และความอ่อนเยาวน์ไว้อย่างน่าสนใจ

มีการศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ของไวน์มากมาย ซึ่งการดื่มไวน์มีผลกระทบโดยตรงกับสุขภาพของผิวพรรณทำให้เป็นที่ยืนยันได้ค่อนข้างชัดเจนว่าการดื่มไวน์ช่วยให้คุณดูอ่อนเยาวน์ได้จริง

ทำไมไวน์จึงช่วยเรื่อง antiaging ?

กลไล antioxidant ในไวน์แดงที่เป็นทำงานต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเจ้าสาร antioxidant ในไวน์นี้เองที่ช่วยทำให้คุณดูอ่อนเยาว์ นอกจากนี้ยังลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยต่าง ๆ ที่มีความสัมพันธ์กับอายุ เมื่อเปรียบเทียบไวน์กับน้ำองุ่นธรรมดาแล้ว ไวน์แดงจะมีความเข้มข้นของ antioxidant มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพราะไวน์จะต้องผ่านการหมักบ่มซึ่งสิ่งเหล่านี้จะไม่มีในกระบวนการทำน้ำองุ่น ทำให้ระดับ antioxidant หรือสารต้านอนุมูลอิสระมีไม่เท่ากัน

ความเครียดก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้คุณดูแก่กว่าวัย เป็นเรื่องยากที่จะศึกษาประโยชน์ที่ได้จากการดื่มไวน์กับพฤติกรรมของนักดื่ม เพราะจากการศึกษาพบว่าผู้ที่ดื่มไวน์เป็นประจำมักจะมีความเครียดในชีวิตประจำวันน้อยกว่าคนธรรมดา ซึ่งหากจะนำเรื่องนี้มาเป็นปัจจัยศึกษาในประเทศไทย ก็อาจจะเป็นเรื่องยากเพราะพฤติกรรมการดื่มของแต่ละคนก็แตกต่างกัน อย่างไรก็ตามเราสามารถสังเกตได้ว่าผู้ที่ดื่มไวน์มักจะไม่ได้ดื่มจนเมาเหมือนกลุ่มผู้ดื่มเบียร์หรือเหล้า

ไวน์ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ชาวเมดิเตอเรเนี่ยนใช้เพื่อ diet ซึ่งนอกจากไวน์แล้วยังจะต้องมีโฮลเกรน, ถั่ว, ธัญญาพืช ฯลฯ ร่วมด้วย ซึ่งชาวเมดิเตอเรเนี่ยนจะบริโภคสิ่งเหล่านี้เป็นชีวิตประจำวันอยู่แล้วทำให้มีสุขภาพดี จากการศึกษาจำนวนมากเราพบว่าชาวเมดิเตอเรเนี่ยนมีการความคุมอาหารที่ดีและมีชีวิตที่ยืนยาว

ควรดื่มปริมาณเท่าไหร่ต่อวัน ?

การดื่มไวน์วันละแก้วจะช่วยคุณในเรื่องสุขภาพ แต่ถ้าคุณสูบบุหรี่ก็จะมีผลกระทบด้วยเพราะการสูบบุหรี่เป็นการเพิ่มสารก่อมะเร็ง หรืออนุมูลอิสระในร่างกาย ทำให้สารต้านอนุมูลอิสระในไวน์ถูกนำไปใช้ในเรื่องผิวพรรณของคุณได้ไม่เต็มที่ ในทางตรงกันข้ามหากคุณดื่มไวน์มากเกินไปต่อวันก็อาจกลายเป็นผลเสียต่อร่างกายมากกว่าเป็นผลดีได้เช่นกัน

เมื่อคุณเริ่มดื่มไวน์เป็นประจำวันละแก้วผิวพรรณของคุณจะเริ่มเปล่ง มีน้ำมีนวล และคุณจะมีอายุยืนกว่าธรรมดา ที่ไม่สูบบุหรี่หรือกินเหล้าทั่วไป มีการศึกษาพบว่าผู้ที่ดื่มไวน์เป็นประจำมีระดับการเกิดของมะเร็งต่างๆ น้อยกว่าคนที่ไม่ได้ดื่ม และยังลดความเสี่ยงการเกิดโรคอัลไซเมอร์ และโรคเบาหวานได้อีกด้วย คนทั่วไปมักจะคิดว่าการดื่มไวน์ก็ไม่ต่างจากการดื่มเหล้าหรือเบียร์ ที่ให้เสียสุขภาพและทำให้สมองทำงานได้แย่ลง แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้ที่ดื่มไวน์วันละแก้วเป็นประจำทุกวันสามารถลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ถึง 80% เลยทีเดียว

สำหรับผู้แพ้แอลกอฮอล์

คนที่ไม่สามารถดื่มไวน์เนื่องจากมีอาการแพ้แอลกอฮอล์กก็สามารถเลือกที่จะบริโภคอาหารประเภทอื่นที่มีสารต้านอนุมูลอิสาระ ซึ่งมีมากในพืชจำพวกเบอรี่ ทั้งหลาย หรืออาจจะเลือกบริโภคดาร์คช๊อกโกแลต ซึ่งมีผลต่อสุขภาพใกล้เคียงกับไวน์ ทั้งดาร์คช๊อกโกแลต และไวน์มีผลทางการศึกษาว่าสามารถป้องกันผิวของคุณจากการทำลายของแสงได้แดดอีกด้วย

แล้วไวน์ขาวล่ะ ?

โดยทั่วไปแล้วไวน์ขาวไม่มีสารต้านอนุมูลอิสระมากเท่ากับในไวน์แดง ดังนั้นหากจะเลือกดื่มเพื่อสุขภาพไวน์แดงก็เป็นทางเลือกที่เหมาะกว่า เพราะเป้าหมายในการดื่มคือเราต้องการสารต้านอนุมูลอิสระที่อยู่ในไวน์แดง นอกจากนี้สถานที่แหล่งกำเนิด รวมทั้งขั้นตอนการผลิตของแต่ละที่ก็มีผลทำให้ไวน์มีคุณภาพ และสารต้านอนุมูลอิสระไม่เท่ากัน

ที่มา: www.bloggang.com

Monday, October 28, 2013

8 ผลไม้ช่วยลดน้ำหนัก


สาวๆ คนไหนที่ปรารถนาจะมีหุ่นเพรียวสวยได้สัดส่วน ก็มักจะเลือกทานผลไม้เป็นของว่าง หรือบางรายก็ทานผลไม้แทนอาหารหลักบางมื้อเลยทีเดียว เพื่อที่ตัวเลขบนเครื่องชั่งน้ำหนักจะได้ลดลงสมใจ ว่าแต่...จะเลือกทานผลไม้อะไรดีล่ะ ถึงจะช่วยลดความอ้วนได้แบบสบายๆ แถมยังอิ่มท้อง วันนี้ เราก็มีผลไม้ 8 ชนิด ที่จะช่วยให้คุณสาว ๆ ลดความอ้วนได้ไม่ยากมาบอกกัน



 1. แอปเปิล

ผลไม้สีแดง ๆ เขียว ๆ นี้ สามารถช่วยคุณสาว ๆ ลดความอ้วนได้อย่างสบาย ๆ เลยล่ะ เพราะแอปเปิลได้ชื่อว่าเป็นราชาของผลไม้ลดน้ำหนัก เนื่องจากแอปเปิลมีเส้นใยอาหาร หรือไฟเบอร์มากมาย เมื่อทานเข้าไปแล้ว จะช่วยให้เรารู้สึกอิ่มท้องนาน เพราะน้ำตาลฟรักโทสในแอปเปิ้ลจะเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานอย่างช้า ๆ ช่วยให้ร่างกายไม่รู้สึกหิว

นอกจากนั้นแล้ว แอปเปิลยังให้พลังงานเพียงแค่ 59 แคลอรี จึงไม่ทำให้อ้วน แถมยังมีวิตามิน แร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมาย โดยเฉพาะ "เพคติน" ที่มีคุณสมบัติพองตัวได้มาก มันจึงไปเพิ่มกากใยในอาหาร ทำให้ระบบขับถ่ายเป็นไปอย่างปกติ จึงช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ ช่วยจับคอเลสตอรอล และช่วยกำจัดสารพิษในร่างกายได้ด้วย



 2. ฝรั่ง

สุดยอดผลไม้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวิตามินซีชนิดนี้ ช่วยให้คุณลดความอ้วนได้ไม่ยาก เพราะฝรั่งเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำ แถมยังเคี้ยวเพลินอีกต่างหาก จึงเหมาะกับสาวๆ ที่อยากกินจุบกินจิบเรื่อยๆ นอกจากจะช่วยลดความอ้วนได้แล้ว วิตามินซีในฝรั่งยังช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง ไร้ริ้วรอยอีกด้วย

เพราะฉะนั้น หิวครั้งหน้า ก็อย่าลืมคว้าฝรั่งมาทานแทนขนมกรุบกรอบนะคะ อ๊ะ...คำเตือนก็คือ ทานแต่ฝรั่งเปล่า ๆ เท่านั้นนะ อย่าเผลอจิ้มพริกเกลือ พริกน้ำตาล เด็ดขาด เพราะจะทำให้อ้วนได้นะเออ



 3. แตงโม

แตงโมลูกโต ๆ รสหวาน ๆ ไม่ได้ทำให้คุณอ้วนแต่ประการใด เพราะแตงโม 1 ถ้วย ให้พลังงานเพียง 50 แคลอรีเท่านั้น แถมยังให้ไขมันน้อยนิด และยังชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำถึง 93% ของส่วนประกอบทั้งหมด ทำให้เรารู้สึกอิ่มเร็ว เพราะฉะนั้น ไม่ต้องกลัวเลยว่า แตงโม จะทำให้คุณสาว ๆ อ้วนได้ ตรงกันข้าม หากรับประทานแตงโมแทนอาหารมื้อเย็นหนักๆ ก็ช่วยลดความอ้วนได้ด้วย แต่ควรทานอย่างพอดี ไม่มากไปนะจ๊ะ ไม่เช่นนั้นท้องไส้จะปั่นป่วนเอาได้ แถมยังต้องเข้าห้องน้ำปัสสาวะบ่อยๆ ด้วย



 4. ส้ม

สาวๆ หลายคนมักแกะกากส้มออกจนหมด เพื่อให้ทานได้ง่าย ๆ แต่รู้ไหมว่า คุณกำลังทิ้งของดีไปเสียแล้ว เพราะกากใยของส้มนั่นแหละคือสิ่งที่จะช่วยควบคุมน้ำหนักตัวให้สาว ๆ ได้ โดยกากใยจะช่วยทำให้รู้สึกอิ่มท้องเร็ว และช่วยทำให้ระบายท้องได้ดี อย่างไรก็ตาม ส้ม เป็นผลไม้ที่ให้พลังงานค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับผลไม้ลดความอ้วนชนิดอื่น ๆ ดังนั้น ควรรับประทานแต่พอดีแล้วกันนะ



 5. มะละกอ

มะละกอ เป็นผลไม้ที่ช่วยขับสารพิษของเสียออกจากร่างกาย แถมยังช่วยกำจัดไขมันต่าง ๆ ภายในร่างกายได้ด้วย โดยมะละกอมีเอนไซน์ปาเปน ที่จะช่วยย่อยโปรตีน และย่อยอาหาร จึงช่วยลดน้ำหนักได้อีกทางด้วย ส่วนใครที่อยากมีผิวพรรณสวย มะละกอ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสน เพราะมะละกอมีวิตามินซี และเบตาแคโรทีนสูง จึงช่วยบำรุงผิวพรรณได้



 6. แก้วมังกร

แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่ช่วยให้คุณอิ่มท้องได้ง่าย ๆ ไม่แพ้ผลไม้ชนิดอื่น เพราะแก้วมังกรมีกากใยสูงและแคลอรีต่ำ แถมยังมีรสหวานอร่อย หลาย ๆ คน จึงเลือกรับประทานแก้วมังกรเป็นอาหารเย็น หรือทานรวมกับผักสลัดอื่น ๆ เพื่อช่วยลดน้ำหนัก โดยไม่ต้องห่วงว่าจะความหวานจะไปเป็นไขมันสะสมในภายหลัง

และนอกจากลดน้ำหนักแล้ว ผลพลอยได้จากแก้วมังกรที่คุณสาว ๆ ไม่ควรพลาดอีกเช่นกันก็คือ แก้วมังกรเป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิดที่มีวิตามินซีสูงมาก ดังนั้น จึงช่วยบำรุงผิวพรรณไปในตัว แถมยังช่วยกระตุ้นต่อมน้ำนมดีต่อคุณแม่ที่เพิ่งคลอดบุตรด้วย



 7. กีวี

อีกหนึ่งผลไม้ยอดนิยมของสาว ๆ ที่ปรารถนาจะลดน้ำหนักเลยล่ะ เพราะกีวีเป็นผลไม้ที่มีกากใยมากกว่าแอปเปิ้ลและส้มถึง 25% ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วและนาน แถมยังมีวิตามินซี และวิตามินอีสูง ซึ่งจะช่วยให้ผิวพรรณสดใส ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดคอเลสเตอรอลในเลือด บำรุงเซลล์เม็ดเลือดแดงให้แข็งแรง และช่วยสลายไขมันในเลือดด้วย ใครที่ชอบทานกีวีจึงได้ประโยชน์จากกีวีแบบหลายเด้งเลย



8. เกรปฟรุต 

สุดยอดผลไม้ไดเอตที่กำลังเป็นที่นิยม เพราะเมื่อไม่นานมานี้ นักวิจัยในสหรัฐอเมริกาพบว่า การกิน "เกรปฟรุต" ครึ่งลูกก่อนมื้ออาหารจะช่วยให้น้ำหนักลดลงได้อย่างเหลือเชื่อ โดยสามารถลดปริมาณแคลอรีได้ถึง 150 แคลอรีต่อวันเชียวนะ แถมเกรปฟรุตครึ่งลูกก็มีแคลอรีเพียงแค่ 39 แคลอรีเท่านั้นเอง

อยากผอม อยากสวย คุณสาว ๆ ต้องไม่พลาดที่จะลิ้มลองผลไม้ลดน้ำหนัก 8 ชนิดที่เรานำมาฝากกันนะคะ


ที่มา: health.kapook.com


แต่งตัวเก๋ๆ ไป Halloween Party!


บทความที่แล้วเรานำเสนอไอเดียดีๆ ในการแต่งหน้าต้อนรับฮาโลวีน (Halloween) ไปแล้ว บทความนี้เราขอนำเสนอการแต่งตัวแบบเก๋ๆ แปลกๆ ไปงานปาร์ตี้ฮาโลวีนกันคะ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย

1. DIY ทำชุดฮาโลวีนด้วยตัวเอง 



2. แบบง่ายๆ รวดเร็ว ทันใจ 



3. สวยเซ็กซี่แบบเจ้าหญิงในเทพนิยาย



4. แบบประหยัด 



5. Top 10 Halloween Costumes






Saturday, October 26, 2013

5 เรื่องเล็ก ๆ ที่ทำให้คุณผอมช้าลง (Lisa)


ออกกำลังมาเป็นสัปดาห์ แต่น้ำหนักหายไปจี๊ดเดียว บางทีอาจจะเป็นเพราะข้อผิดพลาดเล็ก ๆ เนี่ยแหละคะ ลองมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง



Don’t : เร่งความเร็วแบบไม่สนท่าทาง
Do : ใช้ความเร็วพอเหมาะ รักษาท่าทางให้ถูกต้อง
ผลลัพธ์ : เผาผลาญได้ดีกว่าประมาณ 50 แคลอรี่ต่อครึ่งชั่วโมง 

การออกกำลังกายด้วยความเร็วจะเบิร์นแคลอรี่ได้มากกว่าก็จริงอยู่ แต่ถ้าเร็วจนเกินไปก็จะทำให้ฟอร์มตกในเวลาอันรวดเร็วเช่นกัน ยอมลดความเร็วลงหน่อยแต่คงที่ และโฟกัสไปที่ท่าทางการออกกำลังที่ถูกต้อง คุณจะรู้สึกว่าออกกำลังกายได้สบายขึ้น เพราะร่างกายสามารถรับออกซิเจนเข้าไปได้มากขึ้น นอกจากนี้หากคุณเล่นเวตเทรนนิ่งก็ควรจะยืนเล่น เพราะร่างกายจะเผาผลาญได้ดีกว่าขณะนั่ง



 Don’t : ออกกำลังทั้ง ๆ ที่กระหาย
 Do : จิบน้ำให้ได้ประมาณ 0.5 ลิตรก่อนออกกำลังสัก 2 ชั่วโมง
 ผลลัพธ์ : ออกกำลังได้นานขึ้นและเฟิร์มได้เร็วขึ้น 

ส่วนประกอบหลักของเซลล์เกือบทั้งหมดในร่างกายก็คือ "น้ำ" หากคุณดื่มน้ำไม่เพียงพอก็จะทำให้เซลล์ทำงานได้ไม่เต็มที่ในขณะที่คุณออกกำลังกาย ทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยเร็วขึ้น และรู้สึกล้าเกินกว่าที่ควร งานวิจัยยังพบว่า อัตราการเต้นของหัวใจขณะออกกำลังเมื่อขาดน้ำน้อยกว่าการได้ดื่มน้ำ ทำให้การเผาผลาญพลังงานน้อยกว่า ดังนั้นก่อนออกกำลัง 1-2 ชั่วโมงควรจิบน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และจิบเรื่อย ๆ ตลอดการออกกำลังกาย



 Don’t : อ่านนิยายบนลู่วิ่ง
 Do : ฟังเพลงไปวิ่งไป
 ผลลัพธ์ : เบิร์นได้มากกว่าถึง 15% 

 แมกกาซีนยังพอเปิดผ่าน ๆ ได้ แต่อย่าอ่านนิยายเด็ดขาด เพราะเมื่อคุณจดจ่อกับการอ่าน คุณก็จะใส่ใจกับการออกกำลังน้อยลง จนอาจจะวิ่งได้ไม่หนักพอที่จะเบิร์นแคลอรี่ให้มากอย่างที่ต้องการ ส่วนการฟังเพลงนั้นไม่ดึงความสนใจเท่า และงานวิจัยหลายชิ้นก็คอนเฟิร์มว่า หากเลือกเพลงที่มีจังหวะเร็ว ๆ สนุกสนาน จะสามารถเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจได้อีกด้วย



Don’t : ฝืนออกกำลังทั้ง ๆ ที่ไม่ชอบ
Do : เลือกออกกำลังแบบที่คุณรู้สึกสนุกกับมัน
ผลลัพธ์ : ลดได้เพิ่มขึ้นประมาณ 2 กิโลกรัมต่อปี

ไม่ว่าใครจะบอกว่าการออกกำลังชนิดนั้นดีสักแค่ไหนก็ไม่สำคัญเท่ากับว่าคุณชอบหรือเปล่า? เพราะหากคุณไม่ชอบก็จะหาเรื่องบ่ายเบี่ยงได้เสมอ ลองคิดเล่น ๆ ดูว่า หากคุณหยุดออกกำลังสัปดาห์ละครั้ง และแต่ละครั้งเบิร์นได้ 300 แคลอรี่ต่อครั้ง ก็เท่ากับว่าคุณพลาดการเบิร์นไปถึง 1,200 แคลอรี่ต่อเดือน หรือเกือบ 2 กิโลกรัมต่อปี



Don’t : ออกกำลังแบบคาร์ดิโออย่างเดียวทุกวัน
Do : สลับการออกกำลังแบบคาร์ดิโอ มายกน้ำหนักสัก 3 วันต่อสัปดาห์
ผลลัพธ์ : ความอยากอาหารลดลงลดน้ำหนักได้เพิ่มขึ้น 5 กิโลกรัมต่อปี 

แม้การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอจะช่วยกระตุ้นระบบการเผาผลาญได้ดี แต่หากอยากผอมเร็ว ๆ ต้องคาร์ดิโอสลับกับยกน้ำหนัก งานวิจัยในวารสารวิทยาศาสตร์การกีฬาและการแพทย์ ระบุว่า ผู้ที่ออกกำลังกายในแบบดังกล่าวจะกินน้อยกว่าผู้ที่คาร์ดิโออย่างเดียว 517 แคลอรี่ต่อวัน เนื่องจากระดับฮอร์โมนจะสมดุลขึ้น ระดับน้ำตาลในเลือดจะคงที่ คุณจึงรู้สึกอิ่มนานขึ้น


Note ! อย่าเชื่อว่าคุณจะสามารถเบิร์นแคลอรี่ไปได้เท่าที่เครื่องออกกำลังกายแต่ละเครื่องคำนวณให้ ผลสำรวจที่รายงานใน National Strength and Conditioning Conference พบว่าเครื่องพวกนี้จะประเมินเกินจริงไปโดยเฉลี่ย 30%

ที่มา: health.kapook.com


ไอเดียดีๆ แต่งหน้ารับฮาโลวีน


ใกล้จะถึงวันฮาโลวีน (Halloween) เข้ามาทุกทีแล้วนะคะ วันนี้เรามีไอเดียดีๆ ในการแต่งหน้าสวยแบบสยองต้อนรับฮาโลวีนมาฝากกันคะ

1. สวยแบบง่ายๆ ทำได้ด้วยตัวเอง 



2. สวยแบบ Zombie 



3. สวยสยอง




4. สวยเซ็กซี่ แวมไพร์สาว 



5. สวยจนขนลุก




ประโยชน์ดีๆ ของ "ฟักทอง" ที่สาวๆ ควรรู้


ช่วงนี้ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหน ก็เห็นฟักทองประดับประดาอยู่ตามที่ต่างๆ เพราะฟักทองถือเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลฮาโลวีน นอกจากฟักทองจะเป็นผักที่ดูสวยงามแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสาวๆ หลายประการอีกด้วยคะ เมื่อสาวๆ อ่านจบแล้ว รับรองต้องรีบไปซื้อฟักทองมาทำอาหารแทบไม่ทันคะ 

ฟักทองอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมายที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเช่น วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 วิตามินซี วิตามินอี ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุโซเดียม ธาตุแมงกานีส ธาตุเหล็ก ซิงค์ 

ในผลฟักทองนั้นมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยในการชะลอวัยความแก่ชรา ช่วยฟื้นบำรุงสุขภาพผิว ให้เปล่งปลั่งสดใส และช่วยปกป้องผิวไม่ให้เหี่ยวย่น

ฟักทอง ยังเป็นอาหารเพื่อสุขภาพของผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอีกด้วย เพราะฟักทองมีกากใยที่สูงมาก มีแคลอรี่และไขมันน้อย จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดความอ้วนและควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี เพียงแค่รับประทานฟักทองหนึ่งถ้วยหรือ 3 กรัมจะทำให้ร่างกายรู้สึกอิ่มได้นานขึ้น

นอกจากนี้ฟักทองยังช่วยฟื้นฟูความสมดุลของระดับอิเลคโทรไลต์ในร่างกายหลังการออกกำลังกายอย่างหนักและทำให้กล้ามเนื้อทำงานได้มีประสิทธิภาพ 

ไม่เพียงแต่ส่วนผลฟักทองเท่านั้นที่มีประโยชน์ ส่วนอื่นๆ ของฟักทองก็อุดมไปด้วยคุณค่าเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เมล็ดฟักทองที่ช่วยทำให้อารมณ์ดี เพราะมีสารที่ช่วยในการสร้าง Serotinin ซึ่งมีผลต่ออารมณ์ ส่วนเปลือกฟักทองมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการหลั่งอินซูลินในร่างกาย ซึ่งช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน สำหรับรากฟักทองนำมาต้มกับน้ำดื่มช่วยแก้และบรรเทาอาการไอ และช่วยถอนพิษจากแมลงกัดต่อยได้

สาวๆ สามารถนำฟักทองมาทำอาหารได้หลายชนิด ทั้งอาหารว่าง เช่น น้ำฟักทองคั้นสด พายฟักทอง ฟักทองต้ม และอาหารมื้อหลัก เช่น ซุปฟักทอง แกงฟักทอง ผัดฟักทองใส่ไข่ หรือจะนึ่งฟักกินกับน้ำพริกก็ได้คะ 

แม้จะมีประโยชน์มากมาย แต่การรับประทานอย่างไม่เหมาะสมก็เป็นโทษได้ เช่น เพราะฟักทองมีฤทธิ์อุ่น จึงไม่ค่อยเหมาะกับผู้ที่กระเพาะร้อน เช่น ผู้ที่มักมีอาการกระหายน้ำ ปัสสาวะเหลือง ท้องผูก มีแผลในช่องปาก เหงือกบวมเป็นประจำ เป็นต้น ซึ่งผู้ที่มีอาการเหล่านี้ไม่ควรรับประทานฟักทองในปริมาณที่มากเกินไปหรือบ่อยเกินไป แม้กระทั่งในคนปกติเองก็ตามก็ไม่ควรรับประทานอย่างไร้สติ เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ไม่สบายท้องได้

บทความโดย นันทพร คำยอด 


Wednesday, October 23, 2013

Yoga Fly


หมวดนี้จะเป็นเรื่องราวน่ารู้ เคล็ดลับ วิธีการฝึก Yoga Fly และท่าต่างๆ อยากรู้เรื่องไหน คลิกได้เลยคะ

รูปร่างสวยด้วย Yoga Fly
9 วิธี สร้างความปลอดภัยก่อนฝึก Yoga Fly

9 วิธี สร้างความปลอดภัยก่อนฝึก Yoga Fly


Yoga Fly ถือได้ว่าเป็นกีฬาน้องใหม่มาแรงที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่สาวๆ โดยก่อนเล่นนั้น สาวๆ ต้องเตรียมตัวให้ดีทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อุปกรณ์ และเสื้อผ้าที่สวมใส่ โดยวันนี้เรามีวิธีการเตรียมง่ายๆ เพื่อสร้างความปลอดภัยก่อนการฝึก Yoga Fly มาฝากกันคะ 

1. ทุกวันก่อนที่จะใช้ผ้าแฮมมอค (Hammock) ควรตรวจสอบความเรียบร้อยว่าเนื้อผ้าอยู่ในสภาพที่ดีหรือไม่ มีรอยฉีดขาด หรือวางผิดตำแหน่งหรือไม่ และตรวจสอบล็อคทุกครั้งก่อนขึ้นนั่ง 

2. ทุกๆ สัปดาห์ควรเช็คความสะอาดเรียบร้อยของเนื้อผ้า หากมีรอยฉีกขาด หรือมีรู ควรเปลี่ยนให้เรียบร้อยก่อนใช้ในครั้งต่อไป

3. ในการทำความสะอาดผ้าแฮมมอค (Hammock) ควรทำความสะอาดด้วยสบู่ และไม่ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม หรือผงซักฟอกที่มีส่วนผสมของน้ำยาที่กัดสี หรือน้ำยาที่แรงๆ เมื่อซักแล้ว ไม่ควรอบในตู้อบ ควรผึ่งแดดให้แห้ง เพื่อรักษาให้ผ้านั้นมีอายุการใช้งานที่นานขึ้น

4. หากมีรูเล็กๆ ควรซ่่อมแซมให้เรียบร้อย แต่ถ้าเป็นรูใหญ่ หรือขาดรุ่ยมากเกินไป ไม่สามารถซ่อมแซมได้ ควรเปลี่ยนใช้ผ้าผืนใหม่ 

5. สำหรับระดับความสูงของการติดตั้งผ้าแฮมมอคนั้น แต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป แล้วแต่ความสูงของแต่ละคน โดยก่อนเล่น ให้ยืนอยู่ตรงหน้าผ้าแฮมมอค ปรับห่วงของผ้าที่เราจะนั่งให้อยู่ในระดับความสูงที่ต่ำกว่าสะโพกของเราเล็กน้อย

6. ควรวางเสื่อไว้ข้างล่างผ้าแฮมมอคเสมอ

7. ในการเคลื่อนไหวบ้างถ่วงท่า เราต้องฝึกกำมือให้แน่น เพื่อที่จะสามารถยกตัวขึ้นไปในระดับที่สูงๆ ได้ ดังนั้นควรฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมือ และฝึกจับให้แน่นอยู่เสมอ

8. ข้อดีของผ้าแฮมมอคคือ ช่วยให้ผู้ฝึกสามารถพยุงตัว และคงตัวได้อย่างสมดุล อย่างไรก็ตามเมื่อฝึกไปนานๆ ผู้ฝึกจะต้องสามารถพยุงน้ำหนักตัวของตัวเองให้ได้ และอยู่นิ่งๆ คงที่ได้ด้วยตัวเอง การที่เราสามารถฝึกพยุงตัวได้ด้วยตัวเอง จะทำให้เราเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ และเพิ่มความแข็งแรงให้ร่างกายมากขึ้น 

9. การสวมเสื้อผ้าในการฝึกนั้น ควรเป็นเสื้อผ้าที่แนบชิดร่างกาย และสวมใส่สบาย เพื่อป้องกันการเสียดสี เสิ้อผ้าที่สวมใส่ควรปิดบริเวณรักแร้ กระบังลม ขา และไม่ควรใส่เครื่องประดับ เช่น สร้อยแหวน กำไล ต่างหู ที่สามารถทำให้ผ้าแฮมมอคฉีกขาดได้ง่าย 


เพิ่มพลังให้กับผิว ด้วยผลไม้ 3 ชนิด


ต้อนรับความสดใสด้วยผลไม้หน้าตาน่ารักสีแดงสดใส 3 ชนิด ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ วิตามิน และสารอาหารที่มีส่วนช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส และที่สำคัญยังช่วยชะลอความเสื่อมโทรมของผิวพรรณไม่ให้ร่วงโรยไปตามกาลเวลาอีกด้วย



สตรอเบอรี่
ผลไม้สีแดงสดนี้ นอกจากหน้าตาจะน่ารับประทานแล้ว ยังมีประโยชน์มากๆ เพราะในสตรอเบอรี่มีทั้ง
+ วิตามินเอ ช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์ ช่วยในการมองเห็น และช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูก
+ วิตามินซี มีอยู่ในปริมาณสูงมากๆ ซึ่่งในวิตามินซีจะมีกรดอินทรีย์ที่เรียกว่า Ascorbic acid สามารถป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกายให้ปลอดภัยจากโรคภูมิแพ้และโรคหวัด
+ สารประกอบ polyphenolic มีคุณสมบัติของแอนติออกซิแดนท์ ช่วยป้องกันโรคเส้นเลือดอุดตัน นอกจากนี้ยังมีผลการวิจัยยืนยันว่า การที่มีสารแอนติออกซิแดนท์อยู่ในระดับที่สูงจะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเกี่ยวกับระบบประสาทอย่างโรคอัลไซเมอร์
เมื่อเปรียบเทียบกับกล้วยและส้ม สตรอเบอรี่จะมีคุณสมบัติในการต่อต้านการเสื่อมของเซลล์ประสาทสูงกว่า และสามารถช่วยขจัดสารพิษในเลือด เหมาะสำหรับคนที่เป็นโรคตับ เก๊าท์ ปวดในข้อ ท้องผูก และความดันโลหิตสูง



เชอรี่
ใช่ว่าเชอรี่ทุกสายพันธุ์จะมีคุณสมบัติเท่าเทียมกันหมด จากการวิจัยพบว่า Montmorency Tart Cherries จะมีสารประกอบในธรรมชาติอยู่ถึง 17 ชนิด ที่มีคุณสมบัติป้องกันอาการอักเสบ นอกจากนี้ใน Tart Cherries ยังมี...
+ สารต้านแอนติออกซิแดนท์สูง ช่วยป้องกันโรคหัวใจและโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งในลำไส้ใหญ่
+ เมลาโทนินสูง จึงสามารถทำลายอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสารพิษที่ทำให้เกิดโรคร้ายต่างๆ อย่างเช่นโรคมะเร็ง
+ สาร anthocyanins มีคุณสมบัติช่วยลดอาการอักเสบ จึงสามารถบรรเทาอาการของโรคข้ออักเสบได้
+ มีค่า glycemic Index ต่ำมากๆ แค่ 22 เท่านั้น จึงเหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการจะไดเอ็ต



ทับทิม
ใครจะนึกว่า เจ้าผลไม้กลมๆ ที่มีเม็ดอัดแน่นเหมือนทับทิม จะมีประโยชน์ต่อร่างกายสุดๆ จากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ชาวอิสราเอล พบว่าในน้ำทับทิมมีวิตามินซีสูง และมีความสามารถในการต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่าไวน์แดงและชาเขียวถึง 3 เท่า!! นอกจากนี้ ทับทิมยังสามารถ...
+ ทำให้ปฏิกิริยา oxidation ของคอเลสเตอรอลเกิดช้าลงครึ่งหนึ่ง จึงสามารถลดปริมาณ LDL (ไขมันเลว) ลงได้ อันเป็นสาเหตุของการเกิดเส้นเลือดอุดตันและโรคหัวใจ
+ ประกอบไปด้วยสาร Polyphenolic และ Anthocyanin เป็นสารที่ดีต่อร่างกาย ซึ่้่งการดื่มน้ำทับทิมเป็นประจำทุกวันจะช่วยส่งเสริมการทำงานของหลอดเลือด ลดการแข็งของหลอดเลือดแดง และช่วยให้หัวใจแข็งแรง
+ ในเปลือกทับทิมจะมีสารในกลุ่ม Tannin สูงถึง 22-25% ประกอบด้วย Gallotannin เมื่อตากแห้งแล้วสามารถใช้เป็นยาแก้ท้องเดินและโรคบิดได้ และ Ellagictannin มีคุณสมบัติเป็นตัวต้านอนุมูลอิสระที่ดี ช่วยลดอาการอักเสบ และมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง
+ อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก เหมาะสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์

ที่มา: women.sanook.com

Monday, October 21, 2013

6 นิสัยที่ทำให้อายุยืน

เวลาที่ได้ยินว่าคุณตาคุณยายคนไหนมีอายุยืนยาวเป็นร้อยปี สำนักข่าวต่าง ๆ ก็จะไปสัมภาษณ์ถามถึงเคล็ดลับการดูแลตัวเองของคุณตาคุณยายกันใหญ่ และการที่มีคนให้ความสนใจมากขนาดนั้นก็แสดงให้เห็นว่า เราทุกคนต่างก็ต้องการมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่นอกจากการดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองให้ดีแล้ว ผลวิจัยเขายังบอกมาอีกด้วยว่า พฤติกรรมของตัวเราเองก็มีส่วนทำให้เรามีอายุยืนได้เหมือนกัน แถมยังช่วยให้เรามีบั้นปลายชีวิตที่มีความสุขมากขึ้นอีกด้วยนะ

ส่วนลักษณะนิสัยที่ทำให้อายุยืนจะมีอะไรบ้าง ตามมาดูข้อมูลที่ เว็บไซต์ฮัฟฟิงตันโพสต์ เขาได้แจกแจงมาตามนี้เลยจ้า

1. มีสติ ความรอบคอบ และความระมัดระวัง

ในปี 2012 หนังสือ The Longevity Project เขาได้ทำการสำรวจผู้ที่มีอายุเกิน 80 ปี แล้วพบว่า คนที่มีลักษณะนิสัยรอบคอบ ใช้ชีวิตด้วยสติปัญญา จะมีอายุที่ยืนยาวมากขึ้น โดยนักสำรวจก็ได้ชี้แจงต่อว่า บุคลิกภาพและลักษณะนิสัยจากวัยเด็กสามารถบ่งบอกช่วงชีวิตของคนเราได้เลย โดยคนที่ใช้ชีวิตในวัยหนุ่มสาวด้วยสติ ความรอบรอบ และมีความรับผิดชอบในตัวเอง มักจะมีชีวิตที่ยืนยาวที่สุด

เนื่องด้วยคนที่มีลักษณะนิสัยแบบนี้ มีแนวโน้มจะดูแลชีวิตตัวเองได้เป็นอย่างดี และรู้จักหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในชีวิต เหมือนกับคนที่รู้จักเอาตัวรอด นอกจากนี้ผลวิจัยยังชี้แจงต่อไปอีกว่า แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานทางชีวภาพที่แน่ชัดว่าทำไมคนที่มีลักษณะนิสัยรอบคอบ มีสติ และรู้จักระมัดระวังตัว จะมีชีวิตที่ยืนยาวกว่า แต่ที่แน่ ๆ ผลการศึกษาก็แสดงให้เห็นถึงระดับความแตกต่างของสารเซโรโทนิน (serotonin) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่อยู่ในสมอง และสารเคมีตัวอื่น ๆ ระหว่างคนที่มีลักษณะนิสัยรอบคอบ และคนที่มีลักษณะนิสัยตรงกันข้ามด้วย

 2. หัวเราะง่าย  

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเยชิวาได้ทำการทดลองเรื่องการมีอายุยืน โดยเขาได้เฝ้าสังเกตพฤติกรรมของกลุ่มคนสูงอายุ และพบว่า คนสูงอายุส่วนมากมักจะมีอารมณ์ดี และเป็นคนหัวเราะง่าย และผู้มีอายุเกิน 100 ปี กว่า 230 คนก็มีนิสัยหัวเราะง่ายแบบนี้เช่นกัน ทำให้เขาพอจะตีความได้ว่า บุคลิกยิ้มและหัวเราะง่ายเป็นคุณสมบัติเด่นที่สะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติที่ดีของบุคคลนั้น ๆ และการใช้ชีวิตด้วยทัศนคติที่ดี ก็ทำให้จิตใจปลอดโปร่ง ซึ่งน่าจะสัมพันธ์กับสุขภาพในแง่ดี ๆ อีกหลายด้านเลยทีเดียว

 3. มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี

ผลวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ในนิตยสาร PloS Medicine เมื่อปี 2010 แสดงให้เห็นว่า กลุ่มคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีแนวโน้มอายุยืนมากขึ้นถึง 50% ด้วยคำอธิบายว่า การปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ไม่ได้มีผลประโยชน์ในด้านแค่จิตใจของเราเท่านั้น แต่มีผลประโยชน์ดี ๆ กับด้านสุขภาพร่างกายด้วย เพราะการได้ออกไปอยู่ในวงสังคมที่หลากหลาย จะทำให้เราได้มีมุมมองใหม่ ๆ ได้รับรู้ข่าวสารสาระสำคัญต่าง ๆ อีกทั้งยังได้ร่วมแชร์ความรู้สึกซึ่งกันและกันอีกด้วย

 4. มองโลกในแง่ดี

นักวิจัยค้นพบว่า คนหัวเราะง่ายมักจะมีอายุยืน เขาก็ได้ค้นพบว่าคนที่มีลักษณะนิสัยมองโลกในแง่ดีก็มีแนวโน้มมีอายุยืนด้วยเช่นกัน โดยนักวิจัยได้อธิบายสนับสนุนผลการวิจัยไว้ว่า แม้ผลวิจัยจะแสดงให้เห็นว่า คนในช่วงวัย 70-100 ปี จำนวนมาก มีลักษณะนิสัยและทัศนคติที่เปลี่ยนแปลงไปได้ ทำให้ไม่สามารถฟันธงได้ว่า คนที่มีอายุยืนเขาจะมีนิสัยมองโลกในแง่ดีตลอดชีวิตของเขาหรือเปล่า

แต่อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยก็ยังสามารถยืนยันได้ว่า บุคลิกภาพและลักษณะนิสัยมองโลกในแง่ดี จะทำให้เรามีทัศนคติในเชิงบวก ส่งผลให้จิตใจและสุขภาพร่างกายได้รับประโยชน์ไปด้วย เลยมีแนวโน้มจะมีสุขภาพกายและใจที่ดีกว่า รวมทั้งอายุก็จะยืนยาวขึ้น

 5. มีความสุขอยู่เสมอ

ว่ากันว่าคนที่มีความสุข จิตใจก็จะผ่องใส เป็นเรื่องจริง ยืนยันได้จากผลการศึกษาที่ถูกตีพิมพ์ในวารสารของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ที่พบว่า ผู้สูงอายุที่มีความสุขจะมีอัตราเสียชีวิตน้อยลง 35% หรือมีอายุยืนมากขึ้นอีก 5 ปี นักวิจัยประเมินผู้สูงอายุมากกว่า 3,000 คน โดยได้ทำการสังเกตอัตราความสุขของพวกเขาตลอดทั้งวัน และเฝ้ารอผลการวิจัยในอีก 5 ปีต่อมา ซึ่งผลวิจัยก็ได้ทำให้นักวิจัยพากันทึ่ง เนื่องจากความสุขสามารถทำให้ผู้สูงอายุมีอายุยืนยาวมากขึ้นจริง ๆ แม้แต่คนที่กำลังป่วยเรื้อรังก็ยังสามารถประคองชีวิตตัวเองได้อีก 5 ปีเลยทีเดียว

 6. ชอบเข้าสังคม

เมื่อปี 2009 มีการศึกษาที่ถูกตีพิมพ์ในวารสารผู้สูงอายุของอเมริกัน จากผลการศึกษาพบว่า ผู้ที่มีอายุเกิน 100 ปีส่วนมากจะมีพฤติกรรมชอบเข้าสังคม และมีอัตราความเสี่ยงเป็นโรคประสาทน้อยมากถึงมากที่สุด โดยนักวิจัยได้อธิบายเพิ่มเติมว่า ผู้ที่ชอบเข้าสังคม จะมีความมั่นคงทางอารมณ์ที่มากกว่า ทำให้รู้จักจัดการกับสภาะความเครียดได้ดีกว่าคนที่ชอบเก็บตัว หรือมีโลกส่วนตัวสูงนั่นเอง

ถ้าดูจากลักษณะนิสัยทั้ง 6 ข้อจะพบว่า นิสัยเหล่านี้ช่วยให้เราใช้ชีวิตอย่างเข้าใจโลกความเป็นจริงมากขึ้น หลีกเลี่ยงความเครียด ใช้ชีวิตบนความสุขและทัศนคติที่ดี เท่านี้ก็ทำให้เรามีความสุขทั้งกายทั้งใจ พลอยทำให้ร่างกายมีสุขภาพดีขึ้นตามไปด้วย และที่สำคัญช่วยให้อายุยืนขึ้นอีกด้วยนะ

ที่มา: health.kapook.com


Sunday, October 20, 2013

คอร์สสร้างหุ่นสวย กระชับ สำหรับสาวๆ ยุคใหม่


ใครอยากสวยเชิญทางนี้คะ !!!!!

วันนี้เรามีคอร์สการออกกำลังกายแบบใหม่ ที่จะช่วยให้สาวๆ มีหุ่นสวยกระชับ ดูดี เซ็กซี่แบบไร้ที่ติมาฝากกันคะ จะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลยคะ

Core off the floor คอร์สการออกกำลังที่ถูกออกแบบเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและกล้ามเนื้อ พร้อมปรับสมดุลให้ร่างกาย การมีกล้ามเนื้อที่กระชับ แข็งแรง ไม่เพียงแต่จะทำให้สาวๆ ดูเซ็กซี่เท่านั้น แต่จะทำให้ร่างกายมีพละกำลังดี กระชับ กระเฉง ว่องไว และสามารถออกกำลังกายชนิดอื่นได้โดยไม่เหน็ดเหนื่อ เมื่อยล้าง่ายๆ

Lunch Break Blaster คอร์สนี้เหมาะสำหรับสาวๆ ที่งานยุ่ง ไม่มีเวลามาก ในช่วงพักกลางวันนั้น สามารถใช้เวลาสั้นๆ เพียงแค่ 30 นาที มาออกกำลังกายแบบในรูปแบบเก๋ๆ ที่่จะช่วยให้สาวๆ รู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวามากขึ้น รูปแบบการออกกำลังกายได้รับการออกแบบมาอย่างดีโดยผู้เชี่ยวชาญ และได้รับการพิสูจน์โดยหลักวิทยาศาสต์แล้วว่าได้ผลจริง รับรองได้ว่าสาวๆ จะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง หุ่นสวยกระชับ โดยไม่ต้องเสียเวลาในการออกกำลังกายมากมายคะ

Pretty Woman คอร์สนี้ออกแบบเพื่อเอาใจสาวๆ โดยเฉพาะ รูปแบบการออกกำลังกายเน้นสร้างสรีระที่งดงามให้ผู้หญิง แถมมีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยให้คำแนะนำ ออกแบบการออกกำลังกายให้ตรงกับความต้องการของสาวๆ แต่ละคน รับรองว่าเสร็จจากคอร์สนี้ สาวๆ จะมีทรวดทรงองค์เอวที่โค้งเหว้าสมใจ อกเป็นอก เอวเป็นเอว สะโพกเป็นสะโพก ไม่พะโล้แน่นอนคะ

Pumped for performance เคยบ้างไหมคะ ที่บางครั้ง เราเข้าฟิตเนส พยายามที่จะฝึกให้ตรงตามเป้าหมาย ฝึกแล้วฝึกอีก กล้ามก็ไม่ขึ้นสักที หุ่นก็ไม่เห็นจะกระชับ หรือฝึกได้ไม่ตรงตามเป้าหมาย ยกน้ำหนักได้แค่หนเดียวก็เหนื่อยแล้ว ทำให้หลายคนอ่อนใจ ที่ฝึกยังไงก็ไม่ได้ผลสักที แต่คอร์สนี้ช่วยได้คะ คอร์สนี้เป็นคอร์สน้องใหม่ ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้หนุ่มๆ สาวๆ สามารถก้าวข้ามการฝึกฟิตเนสในแต่ละขั้นไปจนถึงขั้นสูงสุดได้สำเร็จ รวมถึงช่วยฝึกให้ร่างกายทำงานประสานกัน โดยวิธีฝึกในคอร์สนี้ได้ถูกใช้ฝึกนักกีฬาระดับดังๆ มาแล้ว หนุ่มๆ ที่อยากมีกล้ามเป็นมัดๆ สาวๆ ที่อยากมีหุ่นสวย กระชับ รูปร่างสมส่วน อย่าพลาดคอร์สนี้นะคะ

Training in tension คอร์สที่จะทำให้คุณสนุกสนาน ไปพร้อมกับการสร้างรูปร่างที่สวยงาม สมส่วน โดยมีเทรนเนอร์มาให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด

Moving Free คอร์สนี้เป็นคอร์สที่น่าสนใจ และมีประโยชน์อย่างมาก เป็นการฝึกร่างกายให้ยืดหยุ่น คล่องแคล่ว และแข็งแรง โดยใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายที่ได้รับการออกแบบมาอย่างดีและเป็นนิยมใช้ในการเล่นฟิตเนส โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้เครื่องออกกำลังกาย และผู้เชี่ยวชาญด้านร่างกายและสรีระมาให้คำแนะนำ ออกแบบการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคล และเพื่อช่วยแก้ปัญหาให้เหมาะสมกับแต่ละคน

Boot camp คอร์สนี้ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน เป็นคอร์สที่สนุก และจะทำให้สาวๆ เห็นว่าอุปกรณ์การออกกำลังกายไม่ใช่คำตอบที่จะสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายเสมอไป แต่เราเองต่างหากที่สามารถใช้ร่างกายเป็นโรงยิมสร้างความแข็งแกร่ง สร้างหุ่นสวยกระชับให้ตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์การออกกำลังกายใดๆ เลยคะ เอาแค่ตัวกับใจมาก็พอ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่นี่คะ

Fusion Boxing เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน ที่ให้ทั้งความสนุก ได้เหงื่อ เผาผลาญไขมัน เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย และสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง

สำหรับสาวๆ ที่อยากมีหุ่นสวย เสกได้ดั่งใจ ก็อย่ารอช้าคะ รีบมาทดลองออกกำลังกายด้วยคอร์สน้องใหม่มาแรง โดยสามารถติดต่อ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 08 1660 0864 หรือ www.sanooklife.com


บทความที่เกี่ยวข้อง 


8 กิจกรรมที่ช่วยให้สุขภาพดีขึ้น
10 สาเหตุที่ทำให้การลดน้ำหนักไม่ได้ผล
ประโยชน์ของกีฬา


Fit & Firm ด้วย 4 กีฬาสุดอินเทรนด์
 




Fit & Firm ด้วย 4 กีฬาสุดอินเทรนด์



ผู้หญิงกับความสวยเป็นของคู่กัน ใครๆ ก็อยากมีหุ่นสวย รูปร่าง กระชับ สมส่วนใช่ไหมคะ นอกจากควบคุมอาหาร และออกกำลังกายเป็นประจำแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่สาวๆ จะต้องหากีฬาใหม่เพื่อใช้ออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายแบบซ้ำๆ นอกจากจะทำให้สาวๆ เบื่อ และไม่สนุกกับการออกกำลังกายแล้ว ยังทำให้ร่างกายเกิดความเคยชิน และเผาผลาญไขมันได้ไม่ดีเหมือนเดิม วันนี้เราเลยมีกีฬาดีๆ มาแนะนำคะ รับรองว่า Fit & Firm เห็นผลเร็วพลัน แน่นอนคะ




1. Fusion Boxing 
กีฬาน้องใหม่มาแรงที่กำลังได้รับความนิยมในต่างประเทศ ฟังชื่อดูแล้วอาจดูน่ากลัว และคิดว่าเป็นการเตะต่อยที่เหมาะสำหรับผู้ชายเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วผู้หญิงก็เล่นได้เช่นกันคะ เพราะเกีฬาชนิดนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อลดน้ำหนักโดยเฉพาะ ออกแบบโดยการรวมเอาศิลปะการต่อสู้ที่หลากหลายเข้าไว้ด้วยกัน เช่น มวยไทย มวยสากล และ Crossfit ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอเมริกา ซึ่งเป็นโปรแกรมการฝึกเพื่อเพิ่มขีดความสามารถและสมรรถนะของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือทหารผู้เจนสนามรบ ,ผู้ฝึกศิลปะป้องกันตัวหรือผู้สูงอายุก็สามารถใช้ตารางการฝึกฝนในรูปแบบเดียวกันได้ เพียงแค่ใช้ระดับความหนักเบาและความเข้มข้นของการฝึกที่ต่างกันเท่านั้นเอง

กีฬาชนิดนี้เป็นกีฬาที่ทั้งสนุก ได้เหงื่อ ได้ฝึกกล้ามเนื้อให้กระชับ แข็งแรง ช่วยให้รูปร่างสมส่วน แถมยังช่วยฝึกไหวพริบ สมาธิ และเสริมสร้างความมั่นใจให้ตัวเองอีกด้วย




2. Pilate
ออกกำลังกายที่เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อต้นศตวรรษ 1990 นี้เอง โดยตั้งชื่อตาม โจเซฟ พีลาห์ตีส ชาวเยอรมันซึ่งเป็นผู้คิดค้น การเล่นนั้นมีหลายรูปแบบ ทั้งพิลาทีสบนเสื่อคล้ายกับโยคะ พิลาทีสกับฟิตเนสบอล และพิลาทีสบนเครื่องชื่อว่า พิลาทีสรีฟอร์มเมอร์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สามารถปรับใช้ได้หลายวิธี รีฟอร์เมอร์ประกอบด้วย สปริง ลูกรอก สายรัดทำจากหนัง และเลื่อนติดล้อ โดยเครื่องรีฟอร์เมอร์นี้สามารถออกแบบท่าออกกำลังกายต่างๆ ได้มากกว่า 100 ท่า

ประโยชน์ของกีฬาชนิดนี้ก็มีมากมายหลายข้อด้วยกัน ได้แก่ เป็นการออกกำลังกายที่เน้นการประสานกันระหว่างจิตใจ ร่างกาย และวิญญาณ ผ่านการใช้กล้ามเนื้อและลมหายใจที่ถูกต้องเพื่อการควบคุมร่างกาย สิ่งที่ผู้เล่นจะได้นอกจากกล้ามเนื้อที่ผ่อนคลาย แข็งแรงแล้ว ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย สลายไขมัน แถมด้วยสมาธิที่เพิ่มพูนขึ้น และจิตใจที่สงบนิ่งจากการฝึกควบคุมจังหวะการหายใจ รวมถึงเป็นการบริหารกระดูกสันหลัง ซึ่งช่วยพัฒนาบุคลิกภาพไปในตัว แถมยังช่วยบรรเทาความปวดเมื่อย และลดความเครียด

ถ้าอยากรู้ว่าเล่นแล้วจะหุ่นสวย กระชับจริงไหม ขอแอบบอกรายชื่อสาวๆ ที่เล่นกีฬานี้กัน เริ่มจากมาดอนน่า (Madonna Louise Ciccone) ที่ยังแซ่บยัน 50 สาวไมลีย์ ไซรัส (Miley Ray Cyrus) นักร้องสาวเสียงดีจากอเมริกา ที่น้ำหนักลดไปกว่า 20 ปอนด์แถมด้วยรูปร่างที่เฟิร์มกว่าเดิมเป็นไหนๆ และขอบอกว่าหุ่นงามๆ ของสาวกาละแมร์ และ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ก็ได้มาจากการฝึกฝนพิลาทีสอย่างต่อเนื่อง (ที่มาข้อมูล: Women's Health Thailand)




3. Core Suspend
การออกกำลังกายรูปแบบใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมในเหล่าดารา นักแสดง นางแบบในเมืองไทย เช่น เจนนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ, กาละแมร์ พัชรศรี เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยสร้างจุดอ่อนให้เป็นจุดแข็ง เน้นการสร้างสมดุล ความแข็งแกร่ง และความมั่นคงให้ร่างกาย พร้อมบริหารข้อต่อ กล้ามเนื้อภายใน และสร้างกระดูกที่แข็งแรง รูปแบบการออกกำลังกายคล้ายๆ กับพิลาทีส (Pilates) แต่จะมีการใช้เสียงเพลงประกอบท่าเต้น พร้อมกับใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะเป็นลักษณะคล้ายๆ กับสลิง 2 เส้นติดอยู่กับเพดาน ให้ผู้ฝึกใช้โหนตัว ยืดตัว และลอยตัวกลางอากาศ เรียกได้ว่า เป็นการเรียนรู้การใช้เชือกเพื่อช่วยสร้างความสวย และสร้างรูปร่างให้กระชับ สมส่วนก็ว่าได้นะคะ "Learn ‘the ropes’ to get in shape"

การออกกำลังกายชนิดนี้ สามารถกำหนด และปรับรูปแบบการออกกำลังกายให้เหมาะกับความต้องการ และปัญหาทางร่างกายของผู้ฝึก และช่วยให้ผู้ที่ฝึกฝนได้รับประโยชน์หลายประการ ได้แก่ ลดน้ำหนัก ลดรอบเอว สร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เพิ่มสมรรถภาพทางร่างกายให้แข็งแกร่ง บรรเทาอาการปวดไหล่และหลัง เสริมสร้างบุคลิกภาพให้ดูสง่างาม และเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกระดูก




4. Yoga Fly
เมื่อกล่าวถึงกีฬาชนิดนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเป็นกีฬาที่โด่งดังในแวดวงดาราฮอลีวูด และนักแสดงในเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็น ซอนย่า คูลลิ่ง และ "ลำยอง" หรือนุ่น วรนุช นักแสดงสาวสวย มากความสามารถที่กำลังมาแรงในช่วงนี้

 "Yoga Fly"  เป็นการออกกำลังกายในรูปแบบ fusion technique ที่ผสมผสาน 5 ศาสตร์ไว้ด้วยกัน ได้แก่ Yoga (โยคะ), Pilates (พิลาตีส), Dance (การเต้น), Calisthenics (การออกกำลังการที่เน้นการสร้างความแข็งแรงและสร้างสัดส่วนที่สวยงาม) และ Aerial Art (การแสดงที่เหมือนล่องลอยอยู่กลางอากาศ) เป็นกีฬาที่เหมาะสำหรับทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าจะผอม หรืออ้วน ก็สามารถเล่นได้เหมือนกัน

กีฬานี้ให้ทั้งความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ฝึกเรื่องสมาธิ ช่วยในเรื่องของการยืดหยุ่นกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวและกระดูกสันหลัง กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและระบบสมองให้ดีมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือ ช่วยในเรื่องของการเผาผลาญไขมันส่วนเกิน ช่วยทำให้สาวๆ ลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปรับสรีระของแต่ละบุคคลให้มีความสมดุล ทำให้ร่างกายดูผอม เพรียวกระชับ และสมส่วนมากยิ่งขึ้น หากเล่นเป็นประจำอย่างต่อเนื่องก็จะช่วยสร้างความอ่อนเยาว์ให้แก่ผิวพรรณอีกด้วยคะ

สำหรับสาวๆ ที่อยากสวย Fit & Firm แบบอินเทรนด์ ก็อย่ารอช้าคะ รีบมาทดลองออกกำลังกายด้วย 4 กีฬาน้องใหม่นี้นะคะ โดยสามารถติดต่อ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 08 1660 0864 หรือ www.sanooklife.com


บทความที่เกี่ยวข้อง


15 กีฬาช่วยลดน้ำหนักสำหรับสาวๆ
พิลาทีส (Pilates) สลายพุง
ผู้หญิงยุคใหม่ สวยด้วยมวยไทย




Thursday, October 17, 2013

ตารางแคลอรี่ของอาหารแต่ละชนิด


ปริมาณอาหารเป็นสิ่งสำคัญต่อการลดน้ำหนักมากเลย วันนี้เราเลยนำเอาแคลอรี่ของอาหารแต่ละชนิดมาให้ดูกันค่ะว่าอาหารแต่ละชนิดให้พลังงานเท่าไหร่กันบ้าง สาวๆ จะได้วางแผนถูกว่าในแต่ละวันควรกินอะไรบ้าง มากน้อยแค่ไหน และเมื่อกินไปแล้วควรออกกำลังกายด้วยวิธีใดเพื่อเผาผลาญพลังงานให้เหมาะสม 

ตารางแคลอรี่ของซุปต่างๆ

ซุป
ปริมาณ
แคลอรี่
ซุปผัก1 ถ้วย70-80
ซุปไก่1 ถ้วย110-115
ซุป มะเขือเทศ1 ถ้วย70-80
ซุปถั่ว (กระป๋อง)1 ถ้วย120-130

ตารางแคลอรี่ของเนื้อสัตว์ต่างๆ

เนื้อสัตว์
ปริมาณ
แคลอรี่
ทูน่ากระป๋อง1 กระป๋อง170
แฮม นึ่ง2 ออนซ์160
หอยนางรมสด5 ตัวเล็ก50-60
น่องไก่ย่าง1 ชิ้น80
เบคอน ทอด2 ชิ้น60-70

ตารางแคลอรี่ของผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมและเนย

ผลิตภัณฑ์จากนมเนย
ปริมาณ
แคลอรี่
นม1 ถ้วย240-250
นม ไขมันต่ำ1 ถ้วย150
โยเกิร์ตไขมันต่ำ1 ถ้วย125
โยเกิร์ต1 ถ้วย140-150
เนย50 กรัม300
เชดดาร์ชีส50 กรัม215
คอ ทเตจชีส50 กรัม52-55

ตารางแคลอรี่ของไข่

ซุป
ปริมาณ
แคลอรี่
ไข่ต้ม1 ฟอง80
ไข่ดาว1 ฟอง80-90
ไข่ เจียว2 ฟอง90-100
ไข่คน2 ฟอง220

ตารางแคลอรี่ของขนมปัง

ซุป
ปริมาณ
แคลอรี่
ขนมปังสี ขาว1 แผ่น70
ขนมปังโฮลวีต1 แผ่น65
แครกเกอร์1 ชิ้น26-27
ขนม ปังโรลล์1 ก้อน90

ตารางแคลอรี่ของน้ำผลไม้ต่างๆ

น้ำผลไม้
ปริมาณ
แคลอรี่
น้ำองุ่น1/2 ถ้วย70
น้ำส้มสด1/2 ถ้วย55
น้ำ ส้มกระป๋อง1/2 ถ้วย50-70
น้ำแอปเปิ้ล1 ถ้วย100-125

ตารางแคลอรี่ของผลไม้สดและดิบ

ผลไม้
ปริมาณ
แคลอรี่
ส้มขนาดกลาง1 ผล70-85
กล้วย1 ผล80-85
แอปเปิ้ลขนาดกลาง1 ลูก80
สับปะรด หั่นเป็นคำๆ1 ชิ้น70-80
แคนตาลูป1/2 ผล70-80

ตารางแคลอรี่ของผักสด

ผักสด
ปริมาณ
แคลอรี่
แตงกวาหั่น เป็นแว่นๆ10 ชิ้น10-15
แครอทหั่นฝอย หรือหั่นชิ้นเล็กๆ1 ถ้วย25-30
โคสลอว์1 ถ้วย50
กะหล่ำปลีหั่นฝอย1 ถ้วย20

ตารางแคลอรี่ของอาหารและของหวานต่างๆ

อาหารและของหวาน
ปริมาณ
แค ลอรี่
น้ำสลัดและแยม1 ช้อนชา50-55
ไอศกรีม1 ถ้วย250-270
น้ำตาลทรายขาว2 ช้อนชา30
เค้ก ช็อกโกแลต125 กรัม400-420
เค้กผลไม้60 กรัม105
น้ำเชื่อม1 ช้อนชา50-55
น้ำ ขิงหรือชาสมุนไพร1 ถ้วย10-20
น้ำอัดลม1 กระป๋อง90-98
มันฝรั่งทอด100 กรัม470-520
อก ไก่ทอด1 ชิ้น300-500
บะหมี่กึ่งสำเร็จ รูป1 ถ้วย250-260
สลัดไก่1 จาน90-100
ก๋วยเตี๋ยวเส้นหมี่ลูกชิ้นน้ำใส1 ถ้วย200-230
ขนมจีนน้ำยา1 จาน300-335
พิซซ่า1 ชิ้น160-200


ที่มา: exercise-yoga95.blogspot.com


บทความที่เกี่ยวข้อง 

7 งานบ้านช่วยเผาผลาญแคลอรี่

15 กีฬาช่วยลดน้ำหนักสำหรับสาวๆ