Sunday, August 25, 2013

สวยและมีสุขภาพดีด้วย "น้ำ"

ภาพจาก www.unfinishedman.com
วันนี้ได้อ่านบทความดีๆ เกี่ยวกับการดื่มน้ำเพื่อสุขภาพที่ดีจาก health.kapook.com เห็นว่ามีประโยชน์ดี เลยนำมาฝากกันคะ

 Water for Beauty กินน้ำให้สวย (Modernmom)
เรื่อง : มอลลี่

กว่า 80% ของน้ำหนักตัวในร่างกายเรามี "น้ำ" เป็นส่วนประกอบ ตลอดชีวิตและร่างกายหล่อเลี้ยงด้วยน้ำ อย่างนี้แล้วจะขาดน้ำได้อย่างไร แต่คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะผู้หญิงทำงานมักจะลืมดื่มน้ำ ดื่มน้ำน้อย ดื่มน้ำอัดลม น้ำหวานมากกว่าน้ำสะอาด เชื่อไหมคะว่า น้ำเหล่านี้ทำให้เราสวยน้อยลง แต่หากเปลี่ยนวิถีชีวิตมาดื่ม "น้ำ" ให้มากขึ้นจะทำให้สวยได้ แบบไม่ต้องเสียสตางค์ซื้อครีมราคาแพง

"น้ำ" วันละ 8-10 แก้ว : ปริมาณน้ำที่เพียงพอกับร่างกายจะช่วยให้เลือดไหลเวียนดี และทำให้ผิวชุ่มฉ่ำ ไม่แห้งกร้าน

 "น้ำ" ชะล้างของเสีย : ยิ่งดื่มน้ำมากก็จะยิ่งขับของเสียได้มาก ซึ่งออกมาทั้งจากทางเหงื่อหรือปัสสาวะ น้ำจะช่วยชะล้างของเสียในลำไส้ โดยเฉพาะในตอนเช้าหลังตื่นนอน หากดื่มน้ำอุ่น จะช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้น และเมื่อไม่มีของเสียตกค้างในลำไส้ ก็จะส่งผลดีให้หน้าใสไร้สิวนะคะ

 "น้ำ" (อุ่น) เปิดรูขุมขน : ย้ำว่าเป็นน้ำอุ่นค่ะ เพราะน้ำที่ร้อนเกินไปทำให้ผิวหน้าลอกและแห้ง น้ำอุ่นนอกจากระหว่างล้างจะช่วยผ่อนคลายผิวหน้าแล้ว ยังช่วยเปิดรูขุมขน ทำให้การสครับหรือล้างหน้าได้สะอาดหมดจด ไม่ทิ้งสิ่งสกปรกจากเครื่องสำอางที่แต่งมาตลอดทั้งวัน

"น้ำ" เย็นปิดรูขุมขน : หลังการล้างหน้าตามปกติแล้ว ใช้น้ำเย็นล้างซ้ำอีกครั้งจะช่วยปิดรูขุมขนและมีส่วนช่วยให้ผิวกระชับขึ้น รวมไปถึงการสระผมด้วยค่ะ น้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิห้องจะดีกับสุขภาพผมมากกว่าน้ำอุ่นที่ทำให้ผมแห้งกร้าน แตกเสีย

"น้ำ" อุ่นแช่ตัว (ออนเซน) : ผิวที่ถูกทาทับด้วยครีมกันแดด และโลชั่น บางครั้งการอาบน้ำอย่างเดียวไม่พอ การได้แช่น้ำอุ่นจะช่วยเปิดรูขุมขนและชะล้างบรรดาสารพัดครีมที่หมักอยู่บนตัวมาตลอดเวลาหลายสัปดาห์ บรรดาขี้ไคลเหล่านี้ล่ะค่ะที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส ออนเซนหรือแช่น้ำอุ่นสัปดาห์ละครั้ง และหยดน้ำมันหอมระเหยที่ชอบจะช่วยให้ผิวสะอาด และผ่อนคลายยิ่งขึ้น

"น้ำ" แร่แช่เย็น สวยทั้งวัน : อากาศบ้านเราร้อน หน้าที่แต่งมาอาจจะหมองได้ น้ำแร่ช่วยได้

              ฉีดก่อนแต่งหน้า จะช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานขึ้น หลังแต่งหน้า ฉีดแล้วซับออกหรือปล่อยให้แห้งจะช่วยให้หน้าที่แต่งดูเป็นธรรมชาติขึ้น ดูไม่ออกว่าแต่งหน้ามากแบบจัดเต็ม

              ฉีดระหว่างวัน หลังมื้อกลางวันแสนร้อน ฉีดบาง ๆ บนหน้า ทิ้งให้แห้งหรือจะขับออก แล้วเติมแป้ง ลิปสติกจะทำให้หน้าที่แต่งดูเหมือนแต่งมาตอนเช้าค่ะ

              Tips : เลือกน้ำแร่ที่เหมาะกับผิวด้วยนะคะ ผิวแพ้ง่ายเลี่ยงชนิดที่มีส่วนผสมของน้ำหอม เพื่อลดอาการระคายเคืองผิว

ร่างกายอาจจะขาดอาหารได้เป็นเดือน แต่หากขาด "น้ำ" เกิน 3 วันอาจจะทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ หากทำได้ไม่ครบทุกข้อ ขอเพียง 1 ข้อที่ต้องทำตามและเป็นกฎเหล็กคือ ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว

ที่มา: health.kapook.com



ประหยัดและสนุก ด้วย 10 กิจกรรม ทำได้ง่ายๆ ในวันหยุด

วันหยุดเสาร์ อาทิตย์ อย่ามัวแต่นอนอยู่บ้านนะคะ หากไม่รู้จะทำอะไรดี วันนี้เรามีกิจกรรมสนุกๆ ทำได้ง่าย และไม่ต้องเสียเงินมากมานำเสนอคะ ได้ทั้งสาระและบันเทิงคะ มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยคะ

ภาพจาก http://happybodyandmind.blogspot.com
1. ปั่นจักรยาน กิจกรรมนี้มีแค่จักรยานก็สนุกได้คะ เป็นการผ่อนคลายและออกกำลังที่ดี ได้ชมทิวทัศน์สวยงาม และได้เหงื่อไปพร้อมๆ กันคะ สำหรับสถานที่ปั่นจักรยาน สามารถปั่นได้รอบๆ บ้าน หรือหากเบื่อบรรยากาศเดิมๆ ก็พาเพื่อนไปชมเมือง หรือลุยๆ หน่อยก็ปั่นจักรยานชมไพร ท่องป่า ส่วนคนกรุงเทพนั้น สามารถไปปั่นได้ที่สวนรถไฟ มีจักรยานให้เช่าราคาไม่แพงมาก ได้ชมเมืองและท่องธรรมชาติไปพร้อมๆ กันคะ

2. เที่ยวชมเมือง วันหยุดพักผ่อนสบายๆ เราสามารถชวนเพื่อน หรือคนในครอบครัวไปเที่ยวชมเมือง พกกล้องถ่ายรูปไปด้วย เดินเที่ยวชมเมือง ถ่ายรูป แวะชิมอาหารอร่อยๆ ข้างทาง รับรองว่าจะได้เห็นอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ ที่เราไม่ทันได้สังเกตวันวันธรรมดา เพราะมัวแต่เร่งรีบไปทำงานให้ทันเวลา

3. วาดรูป หากเป็นคนที่รักศิลปะแล้วละก็ ไม่ควรพลาดที่จะออกไปนั่งในสวน ฟังเพลง พร้อมกับวาดรูปต้นไม้ ใบหญ้า ได้ทั้งความเพลิดเพลิน และผ่อนคลาย แถมได้ฝึกฝีมือในการวาดรูปอีกด้วย

4. ทำขนม สำหรับสาวๆ ที่ชอบการทำขนม สามารถชวนกลุ่มเพื่อนมาที่บ้าน มาช่วยกันทำขนมที่ชอบ เช่น เค้ก ขนมปัง พุดดิ้ง หรือสามารถทำขนมไทยง่ายๆ เช่น ข้าวต้มมัด กล้วยบวดชี ทับทิมกรอบ ได้ทั้งความสนุกและอร่อย สำหรับสูตรการทำขนม ไม่ต้องไปหาซื้อที่ไหนไกล ถามแม่หรือยาย หรืออ่านจากเว็บไซต์ ขอแนะนำเว็บนี้เลยคะ www.maesalim.com และ pim.in.th มีทั้งสูตรขนมไทยและต่างชาติ 

5. ปาร์ตี้อาหารนานาชาติ หากทำขนมไม่เก่ง ก็สามารถชวนเพื่อนมาทำอาหาร โดยแต่ละคนเตรียมมาคนละเมนูที่ไม่ซ้ำกัน หากจะให้สนุกมากขึ้นให้แต่ละคนทำอาหารแต่ละชาติที่ตัวเองชอบ เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น อังกฤษ อเมริกา อิตาลี เป็นต้น เลือกเมนูง่ายๆ เช่น สปาเก็ตตี้ ไก่ทอด เฟรนฟราย ข้าวหมูอบซอลญี่ปุ่น อุด้ง ราเมน ข้าวผัดกิมจิ เป็นต้น พอทำอาหารเสร็จ ก็ช่วยกันเตรียมเครื่องดื่ม และจัดตกแต่งสถานที่ อาจจัดในสวน หรือหน้าบ้าน ประดับประดาด้วยเทียนหอม เปิดเพลงสนุกๆ นั่งคุยกันไป กินอาหารไป สำหรับเว็บไซต์เมนูอาหารเด็ดๆ จากทั่วโลก และวิธีการทำ แนะนำสองเว็บนี้คะ www.siammoo.com และ www.menujang.com

6. ทำสปาใบหน้าที่บ้าน ไม่ต้องเสียเงินจ่ายค่าทำสปาแพงๆ แล้วต้องนั่งรถไปตั้งไกลเพื่อทำสปานอกบ้าน จริงๆ แล้วเราสามารถทำได้ที่บ้านคะ แค่จุดเทียนหอม เติมกลิ่นในตะเกียงอโรมา เปิดเพลงเบา จากนั้นก็เริ่มทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจด แม้จะไม่มีเครื่องสตีมสำหรับทำไอน้ำอย่างที่ร้าน แต่เราก็ยังสามารถอบไอน้ำให้กับผิวหน้าของตัวเองได้ง่าย ๆ ด้วยการต้มน้ำ 3 ถ้วยให้ร้อนจัด ถ่ายมาใส่ชามปากกว้าง หยดกลิ่นอโรมาที่ชอบลงไป 1-2 หยด จากนั้นอังหน้าไว้ที่ปากภาชนะ แล้วใช้ผ้าขนหนูคลุมศีรษะกับภาชนะเอาไว้ 10 นาที ไอน้ำจะช่วยวอร์มผิวหน้า ทำให้รูขุมขนเปิด และขับเอาสิ่งสกปรกที่คั่ง จากนั้นก็มามาร์สหน้าด้วยครีมที่เราชอบ หรือสามารถทำเองโดยใช้น้ำผึ้่งผสมกับน้ำมะขามเปียกพอกหน้าเอาไว้ นอนบนเตียง พร้อมฟังเพลงสบายๆ หากอยากบำรุงผิวรอบดวงตาด้วย ก็สามารถฝานแตงกวาบางๆ นำมาโป๊ะไว้ที่ตา ผ่อนคลายสัก 30 นาที สุดท้ายล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น ตามด้วยเซรั่ม และครีมบำรุงผิว 

7. ชวนเพื่อนมาเสริมสวยด้วยกัน ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง วันว่างๆ หากอยากสวย และสนุกไปพร้อมๆ กัน แทนที่จะเสียเงินไปเสริมสวยข้างนอก สาวๆ ควรชวนเพื่อนมาเสริมสวยที่บ้าน มาแลกเปลี่ยนเคล็ดลับ สูตรดีๆ ในการดูแลร่างกาย ผลัดเปลี่ยน ช่วยกัน พอกหน้า ทาเล็บ เพ้นท์เล็บ ตัดผม ย้อมสีผม นวดเท้า นวดน้ำมัน เป็นต้น 


8. ชวนกันไปเก็บผลไม้ อันนี้ต้องหาสวนผลไม้ที่เปิดให้คนเข้าชม พร้อมเก็บผลไม้กินได้ตามใจชอบ เช่น สวนมังคุด สตอเบอรี่ องุ่น เป็นต้น กิจกรรมนี้รับรองว่า สนุกและอิ่มท้องคะ 


9. ไปเดินป่า การได้สัมผัสธรรมชาติ ต้นไม้ ใบหญ้า และภูเขาจะทำให้เราสงบมากขึ้น และช่วยลดความเครียดจากงานหนัก และความวุ่นวายในเมือง โดยสามารถชวนกลุ่มเพื่อนๆ ไปเดินป่ากันเอง หรือไปกับทัวร์ 

ภาพจาก http://www.inspirationrealisation.com

10. ประดิษฐ์ประดอย สำหรับสาวๆ ที่ชอบเย็บปักถักร้อย ก็ลองชวนเพื่อน แม่ หรือญาติพี่น้อง นำของเหลือใช้ในบ้านมาประดิษฐ์ประดอยเพื่อใช้ตกแต่งบ้าน หรือนำเสื้อผ้าเก่าๆ ที่ไม่ค่อยได้ใช้ มาลองปรับแต่งใหม่ เปลี่ยนเป็นเสื้อใหม่เก๋ๆ หรือลองทำเครื่องประดับจากของเหลือใช้ดู สามารถดูไอเดียเก๋ๆ ได้จาก www.simlady.com และ www.forfur.com คะ




บทความโดย นันทพร คำยอด




Friday, August 23, 2013

ผู้หญิงยุคใหม่ สวยด้วยมวยไทย


ใครว่า "มวยไทย" เป็นเรื่องสำหรับผู้ชาย จริงๆ แล้วผู้หญิงนี่แหละ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเรียนมวยไทย เพราะนอกจากมวยไทยจะเป็นศิลปะชั้นเลิศในการป้องกันตัวแล้ว ยังเป็นกีฬาที่สนุก ช่วยลดความเครียด ช่วยเสริมบุคลิกที่ดี สร้างความมั่นใจ ช่วยลดน้ำหนนัก ทำให้รูปร่างของสาวๆ สวยกระชับ และเพิ่มความสดใส อ่อนเยาว์ให้ผิวพรรณได้อีกด้วยคะ

เชื่อไหมละคะว่า เคล็ดลับความงาม หุ่นกระชับของนางแบบชื่อดัง ลูกเกด เมทินี คือ "การต่อยมวย" โดย คุณลูกเกดได้ให้สัมภาษณ์ว่าไว้ "การดูแลรูปร่างของลูกเกด เน้นการออกกำลังกายค่ะ ตอนนี้ก็มีต่อยมวย ต่อยมานานเป็นปีละค่ะ ก่อนที่เค้าจะฮิตกันอีก นอกจากนั้นถ้ามีเวลาว่างก็แอโรบิคแล้วก็ยกเวทนิดหน่อย แต่ส่วนมากจะเน้นต่อยมวย เพราะ จะเผาผลาญไขมัน และออกำลังกายได้ทุกส่วน ถ้าเราเตะ เข่า ในท่าถูกวิธี รูปร่างก็จะดูเฟริม์ขึ้นไม่หย่อนคล้อย" (ที่มาข้อมูล: women.sanook.com)

นอกจากนี้ยังมีดาราดังๆ มากมายที่หันมาออกกำลังด้วยการต่อยมวย ได้แก่ "เชียร์-ฑิ ฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์", "วิกกี้-สุนิสา เจทท์", "ลุลา หรือตุ๊กตา-กันยารัตน์ ติยะพรไชย", "นก-อุษณีย์ วัฒฐานะ" และ "มาริสา แอนนิต้า" เป็นต้น

ภาพจาก http://webboard.ladytips.com

กีฬามวยไทยยังดังข้ามไปถึงฝั่งฮอลีวูด คุณแม่ลูกดก แองเจลิน่า โจลี่ เผยว่าไม่มีครั้งไหนที่เธอต้องปรับโฉมตัวเองยกใหญ่เหมือนคราวที่ต้องรับบท ลาร่า ครอฟท์ ในหนัง Tomb Raider เธอใช้เกือบ 3 เดือนเข้าคอร์สเรียนมวยไทยและฝึกโยคะ เพื่อปรับรูปร่างให้ดีขึ้น

มวยไทย ถือว่าเป็นกีฬาที่ใช้กล้ามเนื้อ เเละใช้พลังงานสูงมาก เป็นการออกกำลังกายแบบเต็มรูปแบบที่ดี เพราะได้ใช้กล้ามเนื้อในทุกส่วน และทำให้การเต้นหัวใจเพิ่มขึ้น เลือดสูบฉีด ถือเป็นวิธีที่เหมาะสมในการลดน้ำหนัก โดยสองชั่วโมงสามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 2,000 แคลอรี่เลยทีเดียว

หากต้องการลดน้ำหนักอย่างจริงจัง และได้ผล สาวๆ ก็สามารถฝึกมวยไปพร้อมๆ กับการเล่นกีฬาชนิดอื่น เช่น โยคะ พิลาทิส ว่ายน้ำ แอโรบิค และวิ่ง เป็นต้น นอกจากนี้ควรฝึกอย่างจริงจัง ตั้งใจ โดยต้องวางแผนไว้เลยว่าแต่ละอาทิตย์จะฝึกอะไรบ้าง ฝึกกี่ครั้ง และเป็นเวลากี่ชั่วโมง จากนั้นพยายามทำให้ได้ตามแผนที่วางไว้ ที่สำคัญคือ ควรควบคุมการรับประทานอาหารไปด้วย

สำหรับสาวๆ ที่สนใจคอร์สเรียนมวยไทยเพื่อลดน้ำหนัก และสร้างรูปร่างกระชับสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ หรือสอบถามได้ที่หมายเลข 08 1660 0864 หรือ www.sanooklife.com

นอกจากนี้ยังมีกีฬาชนิดอื่นๆ ที่ช่วยลดน้ำหนัก ทำให้หุ่นกระชับ สมส่วนได้เช่นกัน สาวๆ ที่สนใจสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่

รูปร่างสวยด้วย Yoga Fly

หุ่นสวยกระชับแบบอินเทรนด์ด้วย Pilates





ไขทุกปัญหาข้อสงสัยเรื่อง "สิว"

"สิว" ถือได้เป็นปัญหาใหญ่ของสาวๆ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเมื่อทุกเวลา และเป็นปัญหาที่สาวๆ หลายคนกังวล

ภาพจาก http://cozywallet.com
วันนี้เราได้เรารวบรวมข้อมูลเรื่องสิว เพื่อไขทุกข้อข้องใจเรื่องปัญหาสิว และทำให้ความกังวลของสาวๆ หมดไป พร้อมมีใบหน้าสวยใสไร้สิวเข้ามาแทนที่คะ


Q: "สิว" เกิดจากอะไร 
A: สิวเกิดจากรูขุมขนของผิวเราเกิดการอุดตัน จากไขมัน สิ่งสกปรก และน้ำมันในผิวของเราเอง การเป็นสิวนั้นไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคภายในผิว แต่เป็นผลจากปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ ได้แก่ ฮอร์โมนแอนโดรเจน ปริมาณเซลล์โปรตีนเคราทินที่มากเกินไป ความหนาของชั้นหนังกำพร้า ท่อไขมันของผิว การผลิตน้ำมัน และปริมาณของแบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวหน้า 

Q: ปัจจัยใดบ้างที่ทำให้เกิดสิว
A: มีปัจจัยหลายประการที่ทำให้เกิดสิว ได้แก่
1. การเปลี่ยนแปลงของรากผม รากผมเจริญเร็วเซลล์มีการแบ่งตัวเร็ว และมีเซลล์ที่ตายมาก จึงเกิดการอุดตันของต่อมไขมัน

2. ร่างกายสร้างฮอร์โมน Androgen ทำให้มีการสร้างไขมันเพิ่ม โดยมากฮอร์โมนจะเริ่มสร้างเมื่ออายุ 11-14 ปีดังนั้นจึงพบสิวมากในวัยนี้และอาจจะอยู่ได้นานหลายปี

3. น้ำมันส่วนเกิน

4. การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่เหมาะสมในการกำจัดน้ำมันและสิ่งสกปรกออกจากผิว

5. การผลิตโปรตีนเคราทินที่มากเกิน

6. การแพ้อาหาร

7. ขาดวิตามิน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามินเอ)

8. ค่า pH ความเป็นกรดของผิวไม่เพียงพอที่จะต่อสู้กับแบคทีเรียบนผิวสภาพอากาศที่ร้อนชื้น ซึ่งมีส่วนในการกระตุ้นให้เกิดสิวได้มากขึ้น เพราะทำให้มีปริมาณแบคทีเรียเพิ่มมากขึ้น

9. เลือกครีมบำรุงผิวไม่ถูกกับสภาพผิวหน้า

10. การระคายผิว เช่น การล้างหน้าที่มีการถูมาก หรือการบีบสิว

11. ยาบางชนิดทำให้เกิดสิวเพิ่มขึ้น เช่น INH Iodides Bromide Steroid Testosterone Gonadotropine Anabolic steroid ยาคุมกำเนิด

12. การใช้ผลิตภัณฑ์สมานกระชับผิว และผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวแห้งมากเกินไป

13. การรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม

14. ความเครียด


ภาพจาก http://www.thriftyfun.com
Q: มีวิธีใดบ้างที่ช่วยป้องกันการเกิดสิว 
A:  มีวิธีง่ายในการป้องการการเกิดสิว ได้แก่
1. การรักษาความสะอาด มื่อใช้โฟมทำความสะอาดหน้าแล้ว ต้องล้างออกให้หมดจด อย่าให้มีคราบตกค้าง และการล้างหน้าต้องล้างให้ขึ้นไปถึงตีนผม เพื่อล้างน้ำมันและคราบสกปรกที่อาจจะเป็นตัวก่อสิวออกไปให้หมด สาหรับคนที่มีผมมัน ควรสระผมทุกวัน เป็นต้น 

2. การพักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับ พักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวได้เช่นกัน เนื่องจากร่างกายเรามีภูมิต้านทานลดลง 

3. ลดความเครียด สร้างอารมณ์ขบขัน ทำให้เรามีความสุขมากขึ้น ซึ่งความเครียดเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว 

4. ควรกินอาหารจำพวกผักสีเขียว ช่วยให้ร่างกายสามารถล้างสารพิษออกไปได้ 

5. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทที่มีไขมันสูง หรือ ไม่รับประทานอาหารที่มีไขมันมาก ๆ (ที่มาข้อมูล: drsomchai.com)


Q: สามารถรักษาสิวด้วยวิธีใดบ้าง 
A: ปัจจุบัน มีวิธีการหลากหลายวิธี ที่ช่วยดูแลรักษาสิว และทำให้ผิวพรรณดูสวยงาม เปล่งปลั่ง ได้แก่ 
1. การใช้ครีมและทานยา เวลาไปรักษาที่คลินิกความงาม แพทย์มักจะจ่ายยา 3-4พวก ได้แก่ กลุ่มยาฆ่าเชื้อ ที่เจอบ่อยๆ เช่น ClindaM หรือยา Clindamycin บางคนก็จะได้ยาพวก Doxycycline มากิน กลุ่มยาต่อมา คือ กลุ่มยาผลัดเซลล์ผิว เช่น Retin A เร่งให้เซลล์เก่าถูกผลัดไป เซลล์ใหม่ขึ้นมาแทน, ยาทารักษาสิว Resorcinol ชื่อทางการค้าคือ RA เป็นต้น นอกจากนี้ยังมี กลุ่มยากัดเซลล์ผิวเก่า (แก้รูขุมขนตัน) เช่น BHA, AHA, Benzoyl Peroxide ซึ่งจะไปกัดเอาผิวที่ตายแล้วออกไป ทำให้ผิวอ่อนๆ ข้างล่างเด่นขึ้น รวมทั้งกันไม่ให้เกิดการอุดตันรูขุมขน ส่วน Benzamycin เจล เป็นการรวมกันระหว่าง Benzoyl peroxide กับ Erythromycin เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการกับสิวมากขึ้น Erythromycin เป็นตัวหนึ่งในบรรดายาปฏิชีวนะ ซึ่งจะเข้าไปรบกวนการผลิตโปรตีนที่จำเป็นในการแบ่งตัว และยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรีย ซึ่งทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ Benzoyl peroxide ในการจัดการกับสิว กลุ่มยาสุดท้ายคือ ยาคุม ซึ่งหลายคนไม่อยากเสียเงินกับการรักษาพวกนี้ ความจริงแล้วกลุ่มยาที่มีส่วนทำให้ผิวหน้าดูดี เพราะมี BHA และ AHA ในทางการ แพทย์ เราใช้สารกลุ่มนี้ในการรักษาหน้า ซึ่งสรรพคุณของมันคือ การทะลวงเข้าไปในชั้นผิวหนังส่วนบนหรือที่เรียกว่า Epidermis จากนั้นก็จัดการกัดทำลายและทำให้มันหลุดออกจากกัน เรียกง่ายๆ ว่าเป็นการขัดขี้ไคลโดยไม่ต้องออกแรง ในทางการแพทย์ ก็มีการใช้สารพวก AHA BHA และกรดบางชนิดในการทำความสะอาดผิวหน้า สูตรความงามของคนทั่วโลก ก็มีการเอาผลไม้ต่างๆ มาฝานตัดแปะหน้า เช่น แตงกวา มะนาว ส้ม กล้วย นมเปรี้ยว บัวหิมะ ฯลฯ ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงนี้ส่วนหนึ่งมันก็คือ AHA ที่ได้จากธรรมชาติ โดยปกติจะมีอยู่ในปริมาณความเข้มข้นที่ต่ำจนใช้ได้ปลอดภัยไม่ทำลายผิวหน้า 

2. การรักษาด้วยเลเซอร์ Fractional Photothermolysis ซึ่งใช้ในการ รักษาฝ้า จุดด่างดำ รักษาริ้วรอย รอยแผลเป็นจากสิว รอยแผลเป็นจากการผ่าตัดและซ่อมแซมผิวหนังที่ปลอดภัย เป็นการรักษาที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน (อ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่)

3. การรักษาด้วย YAG Laser นอกจากจะรักษาสิวแล้ว ยังช่วยให้ผิวกระชับอ่อนเยาว์ และริ้วรอยลดลง ช่วยทำให้ใบหน้าดูขาวใส เรียบเนียน และช่วยรักษาปัญหาผิวหยาบกร้าน รูขุมขนใหญ่ (อ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่)

4. การรักษาด้วยสมุนไพรไทย เป็นวิธีการที่ง่ายและประหยัด สามารถทำได้ที่บ้านด้วยตัวเอง เช่น มะนาว ขมิ้นชัน ใช้อบเชยผสมน้ำผึ้ง มะขาม เป็นต้น (อ่านเพิ่มเติมวิธีการรักษาสิวด้วยสมุนไพรได้ ที่นี่)


สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องการรักษาสิว และการดูแลผิวพรรณได้ ที่นี่ 



Thursday, August 22, 2013

32 สิ่งที่ผู้หญิงควรทำก่อนแต่งงาน

ข้อดีของผู้หญิงที่โสด หรือผู้หญิงที่ยังไม่แต่งงานคือ มีเวลาให้กับตัวเองเยอะ จะทำอะไรก็ได้ จะไปไหนก็ไป ไม่ต้องห่วงหน้าห่วงหลัง วันนี้เราจึงรวบรวมกิจกรรมดีๆ ที่ผู้หญิงควรทำก่อนจะแต่งงานมาฝากคะ
ภาพจาก http://lifestyle.allwomenstalk.com

กิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง 
1. ไปดูหนังคนเดียว
2. ลองฝึกยกน้ำหนักดู จะทำให้รู้ว่าผู้หญิงก็แข็งแกร่ง ทำอะไรได้ด้วยตัวเอง ไม่แพ้ผู้ชาย
3. ไปเรียนเล่นกระดานโต้คลื่น (Surfing)
4. ยกถังขยะใหญ่ๆ ไปให้รถเทศบาลหน้าบ้านด้วยตัวเอง
5. ย้ายออกไปอยู่อพาร์ทเมนต์ ห้องเช่าคนเดียว โดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากครอบครัว
6. ลงแข่งวิ่งมาราธอน หรือทำกิจกรรมที่ได้ทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย ทำด้วยตนเอง ไม่ต้องชวนเพื่อน
7. ทำกิจกรรมที่ท้าทายความสามารถของตัวเอง กิจกรรมที่ตัวเองไม่เคยทำ หรือกลัว ไม่กล้าทำ เช่น กระโดดบันจี้จั๊ม ดำน้ำ ยิงปืน ปืนหน้าผา กระโดดสูง เป็นต้น
8. ลาออกจากงานเก่าๆ เดิมๆ ที่ตัวเองไม่ชอบ ไม่ต้องทนทำ เพราะกลัวจะตกงาน หรือหางานไม่ได้
9. ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเอง
10. ฝึกอยู่ให้ได้ด้วยตัวเอง ท่องไว้เสมอ "ตนเป็นที่พึ่ง แห่งตน"

กิจกรรมที่ช่วยสร้างความทรงจำดีๆ ทำให้เราสนุก และทำให้ชีวิตมีสีสัน น่าจดจำ
11. ดูหนัง ดูละครที่อยากดู เพราะแต่งงานไปแล้ว ต้องทนดูรายการที่สามีชอบดู แต่เราไม่ชอบ
12. ปาร์ตี้กับเพื่อน สนุกสนานแบบไม่ต้องคิดถึงวันเวลา
13. ขอออกเดตกับคนที่เราแอบชอบ แบบไม่ต้องอาย
14. ออกไปเที่ยวกับผู้ชายสูงวัย แต่สปอต ใจดี ดูแลเรา ทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นเจ้าหญิง
15. ออกเดตกับผู้ชายที่คุยสนุก ทำให้เราหัวเราะจนหยุดไม่ได้

กิจกรรมที่ช่วยสร้างมุมมองดีๆ แปลกๆ ใหม่ๆ ให้กับชีวิต 
ภาพจาก http://dailydelights.sheknows.com
16. ทำกิจกรรมอาสาสมัครช่วยเหลือสังคม จะได้เห็นด้านหนึ่งของสังคม และเรียนรู้การช่วยเหลือผู้อื่น
17. ออกไปทำกิจกรรมกับคุณย่า คุณยายบ้างก็ดี เพราะท่านเหล่านั้นผ่านโลกมาเยอะ ผ่านชีวิตโสด ผ่านการแต่งงาน การมีครอบครัว มักมีข้อคิดดีในการใช้ชีวิตมาสอนเราเสมอ

กิจกรรมที่ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองมีค่า เซ็กซี่ และน่าหลงใหล 
18. ลงทุนซื้อชุดเดรสสีดำ และรองเท้าส้นเข็มสักคู่ พร้อมกับแต่งหน้าให้เปรี้ยว แล้วออกไปดินเนอร์ข้างนอกด้วยตัวเอง
19. นั่งที่บาร์คนเดียวตอนดึก พร้อมสั่งมาร์ตินี่สักแก้ว
20. แสดงการรักตัวเอง และเห็นว่าตัวเรามีค่า ด้วยการซื้อของขวัญที่ตัวเองอยากได้ให้ตัวเอง ไม่ต้องเป็นวันสำคัญอะไรก็ได้ แค่อยากทำอะไรให้ตัวเองบ้าง ไม่จำเป็นต้องให้ใครซื้อให้ก็ได้

กิจกรรมเบาๆ ยามว่าง เพิ่มความเก่ง ความสวยให้ตัวเอง 
21. ไปเรียนภาษาต่างประเทศ
22. ไปเรียนทำอาหาร ศิลปะ เย็บปักถักร้อย
23. เข้าคอร์สออกกำลังกาย หรือคอร์สดูแลตัวเอง
24. ไปสปา หรือนวดเพื่อผ่อนคลาย
25. ไปเสริมสวย ทำเล็บ ทำผมทรงใหม่

ภาพจาก http://www.antonhealth.com/
กิจกรรมที่จะช่วยให้ตัวเอง เป็นคู่ชีวิตที่ดีในอนาคต
26. เอาปากกา และสมุดมาสักเล่ม เขียนข้อเสียของตัวเองลงไป และมานั่งคิดว่าควรปรับปรุง แก้ไขตัวเองอย่างไรบ้าง
27. เตรียมตัวเป็นแม่ศรีเรียน เรียนรู้การทำความสะอาดบ้าน ทำอาหาร ตกแต่งบ้าน ตกแต่งสวน และดูแลสามี
28. ลองหาเวลาไปเยี่ยมเพื่อนที่แต่งงานไปแล้ว ไปดูชีวิตความเป็นอยู่ของคนที่มีครอบครัวแล้ว ดูว่าแต่ละวันผู้หญิงต้องรับผิดชอบ ทำอะไรบ้าง ลองพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ขอคำแนะนำจากเพื่อนในเรื่องการใช้ชีวิตคู่ และการแต่งงานดู
29. วางแผนทางการเงินของตัวเองให้ดี

กิจกรรมที่ทำให้ตระหนักว่า "ชีวิตโสดนี้มีคุณค่า และสนุกกว่าการมีครอบครัวเป็นไหน"
30. ไปช่วยเลี้ยงเด็กสักชั่วโมง จะรู้ว่าการเป็นแม่บ้านที่ต้องทำงานนอกบ้าน อยู่บ้านเลี้ยงเด็กด้วย มันหนักและเหนื่อยขนาดไหน จะไปสนุกสนานกับเพื่อนก็ยากเต็มที่
31. เป็นที่ปรึกษาให้เพื่อนยามเพื่อนอกหัก หรือทะเลาะกับสามี เราจะรู้สึกว่า การอยู่คนเดียว ถึงแม้จะเหงา แต่เราก็ไม่ต้องเผชิญหน้ากับการทะเลาะเบาแว้ง การถกเถียงเรื่องเดิมๆ ที่น่าเบื่อ และไม่สามรถแก้ไขได้
32. ไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนที่โสดด้วยกัน ช่วยทำให้รู้สึกว่าชีวิตโสดนี้มันสนุกสนานแค่ไหน

สุดท้ายคือ เขียนสิ่งที่ตัวเองอยากทำก่อนแต่งงานลงในกระดาษ จากนั้นรีบหาเวลาทำ เพราะเมื่อแต่งงานมีครอบครัวไปแล้วอาจไม่สามารถทำได้ หรือทำได้ยากคะ  


บทความโดย นันทพร คำยอด


Wednesday, August 21, 2013

หุ่นสวยกระชับแบบอินเทรนด์ด้วย Pilates

หากเอ่ยถึง "Pilates" หลายคนอาจยังไม่คุ้นหูมากนักกับกีฬาชนิดนี้  "Pilates" หรือ พิลาทีส คือการออกกำลังกายที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้โครงสร้างภายในร่างกาย สร้างความฟิต ที่จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อสมบูรณ์ แข็งแรง และป้องกันอาการบาดเจ็บ 

"Pilates" เป็นรูปแบบการออกกำลังกายน้องใหม่ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อต้นศตวรรษ 1990 นี้เอง โดยตั้งชื่อตาม โจเซฟ พีลาห์ตีส ชาวเยอรมันซึ่งเป็นผู้คิดค้น โดยนายพีลาห์ตีสได้ทำการผสมผสานรูปแบบการออกกำลังหลากหลายที่เขาเคยเรียนมาในชีวิต ทั้งยิมนาสติก โยคะ ไทชิ เข้ากับเทคนิคของตัวเขาเพื่อลดอาการบาดเจ็บ พิลาทีส ประสบความสำเร็จ และได้รับความนิยมอย่างสูง โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงเสี่ยงต่อการบาดเจ็บในอาชีพ เช่น นักเต้นบัลเลต์, นักรักบี้ และความนิยมก็ยังแพร่ไปสู่เหล่าดารา Hollywood จนกลายมาเป็นกระแสเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ถ้าไม่ดีจริงคงไม่ฮิตฮอตขนาดนี้จริงไหมคะ 

สำหรับประโยชน์ของกีฬาชนิดนี้ก็มีมากมายหลายข้อด้วยกัน ได้แก่ เป็นการออกกำลังกายที่เน้นการประสานกันระหว่างจิตใจ ร่างกาย และวิญญาณ ผ่านการใช้กล้ามเนื้อและลมหายใจที่ถูกต้องเพื่อการควบคุมร่างกาย สิ่งที่ผู้เล่นจะได้นอกจากกล้ามเนื้อที่ผ่อนคลาย แข็งแรงแล้ว ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย สลายไขมัน แถมด้วยสมาธิที่เพิ่มพูนขึ้น และจิตใจที่สงบนิ่งจากการฝึกควบคุมจังหวะการหายใจ รวมถึงเป็นการบริหารกระดูกสันหลัง ซึ่งช่วยพัฒนาบุคลิกภาพไปในตัว แถมยังช่วยบรรเทาความปวดเมื่อย และลดความเครียด 

"Pilates"มีหลายรูปแบบ ทั้งพิลาทีสบนเสื่อคล้ายกับโยคะ พิลาทีสกับฟิตเนสบอล และพิลาทีสบนเครื่องชื่อว่า พิลาทีสรีฟอร์มเมอร์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สามารถปรับใช้ได้หลายวิธี รีฟอร์เมอร์ประกอบด้วย สปริง ลูกรอก สายรัดทำจากหนัง และเลื่อนติดล้อ โดยเครื่องรีฟอร์เมอร์นี้สามารถออกแบบท่าออกกำลังกายต่างๆ ได้มากกว่า 100 ท่า และตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้ ตั้งแต่การฟื้นฟูสภาพร่างกายไปจนถึงเสริมความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ ท่าออกกำลังกายส่วนมากที่ใช้กับเครื่องรีฟอร์เมอร์จะเป็นท่านอน เพื่อเน้นการสร้างความสมดุลย์ให้กับร่างกาย การควบคุมกล้ามเนื้อท้อง ระบบสปริงยืดหยุ่นที่ปรับได้ของตัวเครื่องนั้นช่วยให้เกิดแรงต้านทานจากกล้ามเนื้อเพื่อให้ผู้ใช้สามารถยืดและกระชับกล้ามเนื้อได้ และไม่ก่อให้เกิดการเกร็งแข็งของกล้ามเนื้อ 

ถ้าอยากรู้ว่าเล่นแล้วจะหุ่นสวย กระชับจริงไหม ขอแอบบอกรายชื่อสาวๆ ที่เล่นกีฬานี้กัน เริ่มจากมาดอนน่า (Madonna Louise Ciccone) ที่ยังแซ่บยัน 50 สาวไมลีย์ ไซรัส (Miley Ray Cyrus) นักร้องสาวเสียงดีจากอเมริกา ที่น้ำหนักลดไปกว่า 20 ปอนด์แถมด้วยรูปร่างที่เฟิร์มกว่าเดิมเป็นไหนๆ และขอบอกว่าหุ่นงามๆ ของสาวกาละแมร์ และ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ก็ได้มาจากการฝึกฝนพิลาทีสอย่างต่อเนื่อง (ที่มาข้อมูล: Women's Health Thailand)

คนที่ฝึกจะเห็นผลกับร่างกายได้ช้าหรือเร็วแตกต่างกันในแต่ละคน ถ้าอยากให้ได้ผลดี ต้องทำเป็นประจำสม่ำเสมอ อย่างน้อยประมาณ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ หากทำได้อย่างนี้แล้วก็จะเริ่มเห็นผลต่อร่างกายหลังการฝึกประมาณ 15-20 ครั้ง 


"Pilates"จัดเป็นโปรแกรมการบริหารกล้ามเนื้อและกระดูกอย่างหนึ่ง ไม่ใช่การบริหารเพื่อการเต้นของหัวใจ ดังนั้นคนฝึกสามารถฝึกพิลาทีสควบคู่ไปการฝึกออกกำลังกายชนิดอื่นๆ เช่น การเดิน เต้นแอโรบิค หรือว่ายน้ำ สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักด้วยไม่ควรละเลยการรับประทานอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการด้วยคะ (ที่มาข้อมูล: http://hpilates.blogspot.com/

สำหรับสถานที่เรียน ขอแนะนำ Pilates Bangkok เป็นสถาบันแห่งแรกในเมืองไทย ที่นำเสนอการออกกำลังกายรูปแบบใหม่นี้ อีกทั้งยังเป็นสตูดิโอที่มีคุณภาพ และใหญ่ที่สุด เดินทางได้สะดวก ด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส สถาบันตั้งอยู่ที่สถานีพร้อมพงษ์ ห้องเรียนโปร่งโล่งสบาย เป็นแบบจำกัดจำนวนคน ทำให้ผู้เรียนเข้าถึงผู้สอนได้ง่าย และไม่อึดอัด นอกจากนี้ครูฝึกหรือเทรนเนอร์มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่มีคุณวุฒิสูงและได้รับการรับรองที่มีคุณภาพเรื่องวิธีการสอนพิลาทิสที่ดีที่สุด โดยได้รับการรับรองจาก (STOTT)  และมีโปรแกรมที่น่าสนใจให้เลือกมากมาย เช่น โปรแกรมลดน้ำหนักด้วยพิลาทีส โปรแกรมเรียนพิลาทีสขั้นพื้นฐานพร้อมกับโยคะฟลาย โปรแกรมเรียนพิลาทีสตัวต่อตัวกับครูฝึก พร้อมเรียนรู้ตำแหน่งของร่างกายอย่างถูกต้อง เป็นต้น

สำหรับคนที่สนใจสามารถติดต่อ สอบถาม และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 08 1660 0864 หรือ www.sanooklife.com


คำแนะนำดีๆ ในการสร้างผิวสวยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

วันนี้เรามีคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง จากปารีส ประเทศฝรั่งเศส ดร.นินา รูส (Dr. Nina Roos) ซึ่งเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้ผิวดูมีสุขภาพดีมาฝากกันคะ 


ภาพจาก http://www.womansday.com/
1. หลีกเลี่ยงแดดแรงๆ แสงแดดมีประโยชน์กับร่างกายไม่น้อยเลยทีเดียวในการช่วยให้ร่างกายสร้างวิตามินดี แต่ในอีกด้านหนึ่งการสัมผัสแสงแดดมากเกินไป ก็มีผลเสียคือทำให้เป็นมะเร็งผิวหนังเพิ่มขึ้น และทำให้ผิวหนังแห้ง ตกกระ และเหี่ยวย่นหรือแก่เร็วขึ้น ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่แดดแรงๆ อย่างตอนเที่ยงจนถึงสี่โมงเย็น 


ภาพจาก http://medimoon.com
2. หลี่กเลี่ยงบุหรี่ เพราะเป็นศัตรูตัวร้ายกาจของผิวหนัง บุหรี่แต่ละมวนมีสารเคมีที่เป็นพิษอยู่มากกว่า 4,000 ชนิด ในจำนวนนี้มีสารก่อมะเร็งอยู่ราว 40  ชนิด บุหรี่ยังทำให้เลือดมาเลี้ยงผิวหนังน้อยลง ส่งผลให้ผิวหนังแห้ง ผิวหมองคล้ำ และมีริ้วรอยก่อนวัย ดังนั้นหากอยากให้ผิวสวย จึงไม่ควรสูบหรี่ หรืออยู่ใกล้กับคนที่สูบบุหรี่ 


ภาพจาก http://www.atlaswellness.com
3. เล่นกีฬาช่วยสร้างผิวสวย การออกกำลังกายช่วยลดความเครียด ทำให้จิตใจแจ่มใส โดยการออกกำลังกาย 1-2 ครั้งต่ออาทิตย์ จะช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนให้แก่ร่างกายและผิวหนัง และออกซิเจนนี้จะช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนในชั้นผิวหนังแท้ ส่งผลให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งและกระชับมากขึ้น 


ภาพจาก http://www.momlifetv.com/
4. กินอย่างถูกวิธีเพื่อผิวพรรณที่งดงาม การเลือกกินอาหารทีอุดมไปด้วยวิตามินเอ ซี และอี ทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง มีสุขภาพดี และไม่มีริ้วรอยก่อนวัย โดยวิตามินเอ พบมากในมะเขือเทศ ไข่ นม เนย เนื้อปลา เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยในเรื่องการป้องกันการเสื่อมอายุ ของผิวหนัง การซ่อมแซมผิวหนังที่เสียไป นอกจากนี้วิตามินเอยังมีความสำคัญต่อขบวน การเติบโตของผิวหนัง และเป็นสารสำคัญที่ช่วยทำให้ผิวหนังมีการทำงานอย่างปกติ ส่วนวิตามินซี พบมากในผลไม้ เช่น ส้ม ฝรั่ง มะขามป้อม เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบในมันฝรั่ง และผักสีเขียว เช่น บล็อกโคลี่ กะหล่ำปลี ช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมและรักษาตัวเอง โดยการไปเสริมสร้างผนังเซลล์  ทำให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง และต่อต้านอาการอักเสบ จึงทำให้แผลหายได้เร็วขึ้น สำหรับวิตามินอี พบในนม ไข่ ถั่ว ปลา เนื้อสัตว์ เช่น เป็ด ไก่ น้ำมันพืชต่างๆ ผักที่กินใบ เช่น ผักกาดหอม ผักโขม สตอเบอรรี่ ช่วยป้องกันผิวจากการไหม้เกรียม ริ้วรอยเหี่ยวย่น และรอยแผลได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานหรือการทาที่ผิวหนังโดยตรง เนื่องจากการเกิดแผลหรือการอักเสบบนผิวหนัง หรือการถูกแสงแดดเผาไหม้จะทำให้เกิดการสะสมของอนุมูลอิสระขึ้น วิตามินอีจะทำหน้าที่เหมือนฟองน้ำที่ดูดซับสารอนุมูลอิสระก่อนที่จะทำให้เนื้อเยื่อต่างๆ เสียหาย จึงช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของผนังเซลล์ทำให้เซลล์ผิวแข็งแรงขึ้น และช่วยให้ทนต่อรังสี UV ในแสงแดดได้ดีขึ้น 

แปลและเรียบเรียงโดย นันทพร คำยอด


สุขภาพดีและมีความสุขทุกวันกับ "Sanook life"

ภาพจาก http://picwar.blogspot.com/
ชีวิตที่มีความสุขอาจไม่ใช่แค่ การมีเงินพอใช้ ไม่มีหนี้สิน มีหน้าที่การงานที่ดี ประสบความสำเร็จในชีวิตและความรัก แต่สำคัญคือ "การมีสุขภาพที่ดี ไม่มีโรคภัย ไข้เจ็บ"

บล็อกนี้สร้างขึ้นมาเพื่อช่วยแบ่งปันความรู้ เคล็ดลับดีๆ ในการดูแลสุขภาพ ร่างกาย แนะนำกิจกรรมดีเพื่อสร้างชีวิตให้สนุกสนาน มีสีสัน ไม่น่าเบื่อ และเป็นสื่อกลางในการพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประสบการณ์ดีๆ ในการสร้างสุขภาพที่ดี และสร้างชีวิตที่มีความสุข

สำหรับคนที่รักการเขียน และอยากแบ่งปันเรื่องราวดีๆ อย่ารอช้า มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเรา ด้วยการแชร์ประสบการณ์ ความรู้ในการดูแลสุขภาพ การออกำลังกาย แบ่งปันเคล็ดลับความงาม หรือแนะนำกิจกรรมดีๆ ที่ทำให้ชีวิตสนุก มีความสุขแบบไม่ซ้ำใคร โดยสามารถส่งบทความเพื่อเผยแพร่ในบล็อกนี้มาได้ที่ sanooklife2013@gmail.com 

สำหรับผู้อ่านทุกท่าน หากต้องการเสนอแนะ ติชม วิจารณ์ พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น สามารถติดต่อได้ที่  https://www.facebook.com/sanooklifeThailand หรือ sanooklife2013@gmail.com 



"Life is too short to be anything, but happy"

Tuesday, August 20, 2013

วิธีทำทรงผมเก๋ๆ ไปงานปาร์ตี้


ก่อนที่จะไปงานปาร์ตี้นั้น นอกจากการเตรียมเสื้อผ้า และแต่งหน้าให้สวยเลิศแล้ว สิ่งที่สาวๆ ต้องใส่ใจอีกอย่างคือ การเตรียมทรงผมเก๋ๆ สวยๆ ที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้ใบหน้างามๆ วันนี้เรามีหลากหลายวิธีการทำทรงผมเพื่อไปงานปาร์ตี้มาฝากกันคะ เป็นแบบผมง่ายๆ ที่สาวๆ สามารถทำได้เอง ไม่ต้องเปลืองเงินจ้างช่างทำผม แต่สวยแจ่มแบบชนะเลิศคะ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย

1. สวยง่ายภายใน 5 นาที 




2. สวยหวาน




3. สวยเซ็กซี่




4. สวยเรียบง่ายแบบมีสไตล์ 




5. สวยสง่า 





6. สวยหรู




7. สวยเรียบร้อย




8. สวยน่ารัก





9. สวยเซอร์




10. สวยแบบเจ้าหญิง





11. สวยแบบสาวผมสั้น





12. สวยแบบดาราฮอลีวู๊ด 




“ตึงให้ผ่อน หย่อนให้ดึง” สร้างชีวิตรักให้มีความสุข

จงประคับประคองชีวิตคู่ ดุจดังการบังคับว่าวให้ลอยลมในอากาศ

ภาพจาก http://www.mywedding.com
“ว่าว” เป็นกีฬาที่คนนิยมเล่นกันในสมัยก่อน โดยในการเล่นว่าวนั้นจะต้องใช้ความพยายาม และความอดทนเป็นอย่างมาก เพื่อที่จะชักว่าวให้ลอยลมอยู่ในอากาศได้ นอกจากนี้ในการเล่นว่าว ผู้เล่นต้องมีความสามารถ และความประณีตเป็นอย่างมาก โดยผู้เล่นต้องรู้จักผ่อนหนัก ผ่อนเบา รู้ทิศทางลม หากลมแรงมากๆ ก็ต้องรู้จักผ่อนสายป่าน ไม่ตึงเกินไป เพราะสายป่านที่ตึงมากในขณะลมแรงก็อาจทำให้ตัวว่าวหักงอ และสายป่านขาดได้ แต่การผ่อนสายป่านจนหย่อนเกินไป ว่าวก็อาจล่วงลงมาก และไม่สามารถลอยลมอยู่บนอากาศได้ ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า ผู้เล่นว่าวที่มีความเก่งกาจ สามารถบังคับว่าวให้ลอยลมอยู่บนอากาศได้เป็นระยะเวลานานๆ ต้องรู้จักทิศทางลม ธรรมชาติของว่าว และเทคนิควิธีการเล่นว่าวเป็นอย่างดี นั่นก็คือ “ตึงให้ผ่อน หย่อนให้ดึง”

การประคับประคองชีวิตสมรสให้มั่นคง ก็เป็นเช่นเดียวกับการบังคับว่าวให้ลอยลมอยู่บนท้องฟ้า โดยคู่สมรสต้องรู้จักผ่อนหนัก ผ่อนเบา รู้จักปรับตัวเข้าหากัน ที่สำคัญควรรู้ว่าเวลาไหนควรพูดอะไร บางเรื่องที่ไม่สำคัญ และไม่น่าจดจำก็ไม่ควรนำมาพูดเพื่อให้อีกฝ่ายโกรธ หรือรู้สึกไม่สบายใจ หากเกิดการทะเลาะเบาะแว้งกัน ก็ต้องถ้อยที ถ้อยอาศัย ไม่ต่อปาก ต่อคำในขณะที่อารมณ์ร้อน เพราะอาจทำให้เกิดการบาดหมางใจซึ่งนำไปสู่การเลิกรากันได้ และเมื่อความขัดแย้งผ่านไปก็ควรสร้างบรรยากาศที่ดี เพื่อเสริมความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ให้สมบูรณ์และยาวนาน  นอกจากนี้ก็ไม่ควรปล่อยให้ชีวิตรักเฉื่อยชาเกินไป ทั้งสองฝ่ายควรหันมาสนอกสนใจ ให้เวลาซึ่งกันและกัน พูดจากันด้วยถ้อยคำที่ไพเราะบ้าง ทั้งนี้ก็เพื่อให้เสริมสร้างความรักให้มั่นคงยืนนาน

ภาพจาก http://www.rgu.ac.uk/
การจะประคับประคองชีวิตสมรสให้มั่นคง ยืนนานได้นั้นก็เปรียบได้กับการบังคับว่าวให้ลอยลมอยู่ในอากาศ โดยผู้บังคับต้องรู้จักธรรมชาติของว่าว ซึ่งก็เปรียบได้กับคู่รักที่ต้องเรียนรู้และรู้จักธรรมชาติของคู่ตนเอง ว่ามีนิสัยอย่างไร มีจุดเด่น จุดด้อย หรือจุดเดือดตรงไหน และมีการแสดงออกอย่างไรเมื่อพอใจและไม่พอใจในสิ่งต่างๆ

นอกจากนี้ผู้บังคับว่าวยังต้องรู้ทิศทางลมในการบังคับว่าวเพื่อให้ว่าวคงตัวอยู่ได้นาน และรู้ว่าควรบังคับว่าวไปทิศทางไหน เช่นเดียวกับคู่รักที่ต้องรู้ และเข้าใจอารมณ์ของคู่รักตนเอง ว่าอารมณ์เช่นนี้เขารู้สึกอย่างไร เวลานี้เขาเป็นอย่างไร และต้องการให้เราทำอย่างไร เมื่อเรารู้แล้วจะได้แสดงออกอย่างถูกต้อง และเกิดความพอใจทั้งสองฝ่าย

สุดท้ายคือ การรู้จักเทคนิคในการเล่นว่าว นั่นก็คือ การรู้จักผ่อนหนัก ผ่อนเบา “ตึงให้ผ่อน หย่อนให้ดึง” ความรักก็ต้องรู้จักผ่อนหนัก ผ่อนเบาเช่นกัน คู่รักจึงจะสามารถใช้ชีวิตคู่ได้อย่างมีความสุข มั่นคง และยืนนาน

บทความโดย นันทพร คำยอด



กาแฟกับความรัก

“ความรักก็เหมือนกับกาแฟ ที่เมื่อแรกอาจหอมหวาน แต่อีกไม่นานมันก็อาจเปลี่ยนเป็นข่ม: ทุกๆสิ่งย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลา”

ภาพจาก http://www.momlogic.com
หากเอ่ยคำว่า “รัก” เชื่อแน่ว่ารักของใครหลายๆ คนก็คงมีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป และหากถามว่าความรักของแต่ละคนเปรียบได้กับสิ่งใด คำตอบที่ได้ก็คงมีหลากหลายเช่นกัน บางคนอาจเปรียบความรักเป็นเหมือนดอกไม้แรกแย้มที่กำลังเบ่งบาน หรือบางคนก็อาจจะบอกว่าความรักของพวกเขานั้นเหมือนกับรองเท้า ที่กว่าจะเจอคู่ที่เหมาะสมก็ต้องลองแล้วลองอีก เลือกแล้วเลือกอีกเป็นเวลานานทีเดียว 

ผู้เขียนมีโอกาสได้อ่านเรื่องสั้น เกี่ยวกับความรักของชาย-หญิงคู่หนึ่งที่เริ่มต้นและจบลงที่ร้านกาแฟ เรื่องสั้นเรื่องนี้ชื่อว่า “กาแฟกับความรัก” เป็นเรื่องที่ให้ข้อคิดได้เป็นอย่างดี และทำให้ผู้อ่านได้มองเห็นสัจธรรมความจริงของสิ่งต่างๆบนโลกใบนี้ได้อย่างชัดเจน 

เรื่องนี้เริ่มจากชายหนุ่มรูปงามที่อกหักเพราะหญิงที่รักปันใจให้ชายอื่น เขาจึงออกเดินทางไปยังสถานที่ไกลแสนไกลเพื่อลืมความเศร้า และแล้วเขาก็ได้พบความรักครั้งใหม่ที่ทำให้จิตใจของเขา สดใส เบิกบานขึ้นอีกครั้ง ความรักของเขาครั้งนี้เริ่มต้นที่ร้านกาแฟเล็กๆ ซึ่งมีเจ้าของเป็นสาวสวยวัยกลางคน ชายหนุ่มตกหลุมรักเจ้าของร้านตั้งแต่แรกพบ และเขาก็ตกลงหลุมรักกาแฟฝีมือเธอด้วยเช่นกัน เขามีความรู้สึกว่ากาแฟทุกถ้วยที่หญิงสาวทำ มันช่างหอมกรุ่นและน่าลิ้มลองเป็นยิ่งนัก ความรักของเขาก็เช่นกัน มันช่างเป็นความรักที่สดใสและหอมหวาน ชายหนุ่มแวะเวียนมาที่ร้านกาแฟเป็นประจำ เพื่อพบปะ พูดคุยกับหญิงสาวที่เขาหลงรัก และเขาก็ไม่ลืมที่จะลิ้มรสกาแฟแสนอร่อยฝีมือหญิงสาว ซึ่งทุกๆ ครั้งที่ชายหนุ่มมาเยือน หญิงสาวก็รู้สึกยินดีเป็นนัก เธอจะคอยดูแลเอาใจใส่เขาเป็นอย่างดี ปฏิบัติต่อเขาด้วยความอ่อนโยนและสุภาพ แต่เมื่อเวลาล่วงเลยไป กิจการร้านกาแฟของหญิงสาวเริ่มเติบโต ร้านของเธอมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเธอจึงต้องทำงานหนักมากขึ้น และดูแลลูกค้ามากขึ้น เธอจึงมีเวลาให้ชายหนุ่มน้อยลง และไม่มีเวลาชงกาแฟให้ชายหนุ่มด้วยความประณีต อ่อนโยนอีกต่อไป ส่วนชายหนุ่มก็รู้สึกว่าความรักของเขากับหญิงสาวนับวันเริ่มจืดชืดน่าเบื่อ หญิงสาวที่เคยงดงาม บัดนี้เธอกลับมีใบหน้าและร่างกายที่ดูทรุดโทรมจนไม่น่ามอง ที่สำคัญเขารู้สึกว่า วันๆ หญิงสาวเอาแต่ต้อนรับและดูแลลูกค้าจนลืมที่จะสนใจชายหนุ่ม ส่วนกาแฟที่เคยอร่อยน่าลิ้มลอง บัดนี้กลับมีรสชาติจืดชืดและน่าเบื่อเอามากๆ และแล้วชายหนุ่มก็ตัดสินใจก้าวเดินออกไปจากชีวิตของหญิงสาวเพื่อค้นหาความแปลกใหม่ และความสดใสให้กับชีวิตอีกครั้ง ส่วนหญิงสาวที่แสนสวย บัดนี้เธอรู้สึกว่าความชราได้เข้ามาเยือน ทุกๆ วันเธอมัวสนใจแต่การทำงาน จนไม่มีเวลาดูแลตัวเองและคนรอบข้าง กว่าเธอจะรู้ว่าความรักที่สวยงามของเธอได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ มันก็สายเกินแก้เสียแล้ว

ภาพจาก http://fashion.blogdig.net

จากเรื่องสั้นข้างต้น เราจะเห็นได้ว่าความรักแรกแยมก็เหมือนกับกาแฟที่เมื่อชงใหม่ๆ มันจะหอมหวาน น่าทาน ส่วนคนดื่มก็รู้สึกได้ถึงไออุ่น  และความน่าลิ้มลองของกาแฟ หากได้ชิมเพียงสักนิดก็ยากที่จะวางลง 

ความรักเมื่อแรกเริ่มมันอาจดูสดใสและน่าหลงใหลเป็นอย่างยิ่ง แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ต่อให้กาแฟรสชาติดีแค่ไหน มันก็ย่อมเปลี่ยนแปลงได้ ความหอมหวานอาจลดลง มันอาจเย็นชืด จืดจาง เช่นเดียวกับความรักที่ต่อให้คุณรักกันมากแค่ไหน หากไม่ดูแลเอาใจใส่กันอย่างสม่ำเสมอ ไม่รู้จักเติมเต็มความรักให้แก่กันแล้ว ความรักก็ย่อมจืดจางลง ก็เหมือนกับความรักของชายหนุ่มและหญิงสาว ถึงแม้ว่าเขาทั้งสองจะรักกันมากแค่ไหน หากเขาไม่มีเวลาให้แก่กัน ไม่เข้าใจกัน และไม่ดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกันแล้ว ความรักที่เคยหวานก็ย่อมขื่นขมได้เช่นกัน 

เรื่องสั้นเรื่องนี้จึงให้ข้อคิดแก่เราว่า เราควรหมั่นดูแลความรัก เติมเต็มความรักของเราอย่างสม่ำเสมอ เพราะถ้ามันจากไปแล้วก็มิอาจหวนคืนกลับมาใหม่ได้ และที่สำคัญจงทำใจยอมรับว่า ทุกสิ่ง ทุกอย่างย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ชายหนุ่มที่เคยรู้สึกดีกับหญิงสาว รู้สึกว่ากาแฟที่หญิงสาวทำมีรสชาติหอม หวาน น่าลิ้มลอง แต่นานวันเข้า เขาก็รู้สึกเบื่อมันเช่นกัน หญิงสาวที่หน้าตาเคยสดใส งดงาม แต่พอวันเวลาผ่านไป ความสวยของเธอก็หายไปพร้อมกับกาลเวลา หลงไว้เพียงความชรา และสังขารที่พร้อมจะล่วงลาได้ทุกเมื่อ ส่วนความรักของพวกเขาที่เคยหอมหวาน กาลเวลาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า รักนั้นก็เปลี่ยนเป็นขมได้เช่นกัน

บทความโดย นันทพร คำยอด 

การปลูกต้นไม้กับการดูแลความรัก: ความเหมือนที่น่าค้นหา

จะปลูกต้นไม้ให้งอกงามได้ด้วยวิธีใด จะปลูกต้นรักให้งอกงามได้ก็ต้องใช้วิธีนั้น

ภาพจาก http://suhodgepodge.blogspot.com

ธรรมชาติของต้นไม้ กว่ามันเติบโต และงอกงามได้ ต้องประกอบไปด้วยปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นดินที่เหมาะสม, อากาศที่บริสุทธิ์, แสงแดด, ปุ๋ย และน้ำ นอกจากนี้ยังจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากผู้ปลูกในการคอยรดน้ำ พรวนดิน ตกแต่งลำต้น หรือกำจัดวัชพืช ศัตรูพืชนานาชนิด

ความรักก็เช่นเดียวกับต้นไม้ กว่าต้นรักจะงอกงาม สดสวยได้ ก็ต้องประกอบไปด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง  และก็ต้องได้รับการดูแล การเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากเจ้าของทั้งสองที่ร่วมกันปลูกต้นรักนั้น

หากจะเปรียบการปลูกต้นไม้กับการดูแลความรักแล้ว กว่าทั้งสองสิ่งจะเติบโต งอกงามได้ก็ต้องอาศัยองค์ประกอบที่เหมือนกัน โดยเริ่มจากองค์ประกอบอันเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้ต้นไม้ที่ปลูก เติบโต และเจริญงอกงามได้ นั่นก็คือ “ดิน” โดยดินที่ดีต้องมีความเหมาะสมกับชนิดของพืชที่ปลูก และมีความสมบูรณ์ ไม่ร่วนเกินไป หรือเหนียวเกินไป ซึ่งเปรียบได้ความรัก ความรักที่ดี ทั้งสองฝ่ายก็ต้องเป็นเสมือนดินมีความหนักแน่น และมีความจริงใจต่อกัน เมื่อเกิดปัญหาก็ไม่ย่อท้อ หรือยอมแพ้ง่ายๆ

และเมื่อมีดินที่ดีแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมี “แสงแดดที่เหมาะสม” และ “อากาศที่บริสุทธิ์” หากดินดีแล้วอากาศเป็นพิษ หรือแสงแดดน้อยเกินไป มากเกินไป เชื่อแน่นว่าต้นไม้นั้นก็ไม่มีวันที่จะเจริญงอกงามได้ ความรักก็เช่นกัน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้อิสระแก่กัน เหมือนดังเช่นการให้อากาศที่บริสุทธิ์แก่ต้นไม้ เพื่อให้ต้นไม้นั้นมีโอกาสได้รับสิ่งดีๆ มาบำรุงร่างกายให้งอกงาม สดสวย นอกจากนี้ความรักจะดีได้ คนทั้งสองคนก็ต้องหมั่นเติมความอบอุ่น และเป็นกำลังใจให้กันยามท้อแท้ ยามเกิดปัญหา ซึ่งเปรียบได้กับการให้แสงแดดที่เหมาะสมแก่ต้นไม้ เพื่อให้ต้นไม้สามารถปรุงอาหาร และนำอาหารนั้นมาบำรุงร่างกายให้แข็งแรง พร้อมที่จะต่อสู้กับศัตรูที่เข้ามาระราน

ภาพจาก http://menrjerks.com
องค์ประกอบที่สำคัญต่อมาก็ คือ “ปุ๋ย” โดยปุ๋ยที่ให้นี้ต้องให้ในปริมาณที่เหมาะสม และไม่จำเป็นต้องให้แก่ต้นไม้ทุกวัน แต่ต้องให้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้ต้นไม้นั้น สวยงาม มีความเจริญเติบโตยิ่งขึ้น ซึ่ง “ปุ๋ย” ที่ให้กับต้นไม้นี้ ก็เปรียบได้กับของขวัญที่คนรักต้องหมั่นให้กันเสมอ ในวันสำคัญต่างๆ เพื่อช่วยให้รักนั้นงอกงาม และสดใสยิ่งขึ้น

นอกจากองค์ประกอบที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ต้นไม้ยังต้องการองค์ประกอบที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ “น้ำที่บริสุทธิ์” เพื่อช่วยหล่อเลี้ยงให้ตัวมันเองเจริญงอกงามและดูสดชื่น พร้อมที่จะให้ร่มเงาแก่ทุกชีวิต พร้อมที่จะผลิดอกเพื่อประดับประดาให้โลกนี้ดูสวยงามน่าอยู่ และพร้อมที่จะผลิตผลเพื่อเป็นอาหารให้แก่มวลมนุษย์ เฉกเช่นความรักที่ต้องการความมีน้ำใจ และความไว้วางใจซึ่งกันและกัน เพื่อเป็นน้ำหล่อเลี้ยงให้หัวใจชุ่มชื่น มีกำลังใจในการทำสิ่งต่างๆ และสร้างสิ่งดีๆที่สวยงามเพื่อส่วนรวม

ถึงแม้ว่าจะองค์ประกอบที่ดีแล้ว แต่หากขาดการดูแลเอาใจใส่ต้นไม้หรือความรักอย่างสม่ำเสมอ ทั้งสองสิ่งก็สามารถเหี่ยวเฉา ร่วงโรยได้เช่นกัน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ปลูกต้นไม้ต้องดูแลเอาใจใส่ต้นไม้ที่ปลูก โดยการหมั่นรดน้ำ พรวนดิน ตกแต่งลำต้นให้ดูสวยงาม ไม่ให้ดูรกรุงรัง หรือโน้มเอียงไปทางใดทางหนึ่ง และต้องหมั่นกำจัดวัชพืช ศัตรูพืชนานาชนิดที่คอยทำร้ายให้ต้นไม้อ่อนแอ ความรักก็เช่นกันที่ทั้งสองฝ่ายต้องหมั่นดูแลซึ่งกันและกัน ต้องคอยตัดเล็มอารมณ์หงุดหงิดให้หายไป เพื่อทำให้ความรักสดใส เบิกบาน นอกจากนี้คนรักกันก็ต้องคอยดูแล ประคับประคองความรักให้ราบรื่น คอยป้องกันศัตรูที่จะมาทำร้ายความรัก เฉกเช่นเดียวกับคนปลูกต้นไม้ที่คอยกำจัดหนอน แมลงต่างๆ ที่จะมาทำร้ายต้นไม้

ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งสองสิ่งต้องใช้ “ใจ” ในการปลูก การดูแล และการบำรุงรักษา เพื่อให้ต้นไม้และต้นรักนั้นเจริญงอกงาม พร้อมที่จะเติบโตด้วยมั่นใจ และมั่นคง ดังนั้นเพื่อให้รักของทุกๆ ท่านดูงดงาม “จงหมั่นเติมเต็มความรัก เฉกเช่นเดียวกับการดูแลต้นไม้ให้งอกงาม”

ภาพจาก http://alovedlifestyle.com
บทความโดย นันทพร คำยอด


ความรักและเซ็กส์


หมวดนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเคล็ดลับการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง ความสัมพันธ์ในหมู่เพื่อน และความสัมพันธ์ในครอบครัวให้ดีขึ้น อยากรู้เรื่องไหน คลิกได้เลยคะ

การปลูกต้นไม้กับการดูแลความรัก: ความเหมือนที่น่าค้นหา
กาแฟกับความรัก
"ตึงให้ผ่อน หย่อนให้ดึง" สร้างชีวิตรักให้มีความสุข 
7 เหตุผลดีๆ ที่ทุกคู่รักควรทำกิจกรรมร่วมกัน
10 ประโยชน์ดีๆ ของการมีเซ็กส์

ชีวิตกับโลกสองด้าน: สัจธรรมที่ทุกชีวิตต้องสัมผัส

อย่าดีใจมากเกินไป เมื่อมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น และอย่าเสียใจมากเกินไป เมื่อสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้น เพราะทุกชีวิตจะต้องได้สัมผัสกับทั้งสองสิ่งผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป





รูปภาพทั้งสองนี้เป็นภาพที่ถ่ายมาจากสถานที่เดียวกัน แต่แตกต่างกันตรงที่ถ่ายคนละฤดูกาล ทุกๆ สิ่งบนโลกมีความไม่แน่นนอน ทุกๆ สิ่งมีทั้งความดีและความเลว ความงามหรือความเสื่อมโทรมอยู่ในตัวของมันเอง ดังเช่นรูปภาพทั้งสอง บางครั้งทุกๆ สิ่งในภาพอาจดูเสื่อมโทรม รกร้าง และน่ารังเกียจ แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ฤดูที่แตกต่าง สิ่งต่างๆ ในภาพก็กลับมาสวยงาม น่ารื่นรมย์ และน่าชมอีกครั้ง แน่นอนที่สุดเมื่อวันเวลาผ่านไปอีกครั้ง สิ่งต่างๆ เหล่านั้นก็อาจกลับมารกร้างเช่นเดิม ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปเช่นนี้เรื่อยๆ

ในส่วนของลัทธิเต๋าที่ได้กล่าวไว้ว่า 
“เต๋าที่สามารถนำมาเล่าขานนามได้ยังไม่ใช่นามอมตะ
สิ่งที่ยังมีการเรียนขานนามได้ยังไม่ใช่นามอมตะ
นิรนาม นั้นเป็นรากฐานแห่งสวรรค์และดิน
การเกิดมีนามขึ้น จึงเป็นมารดาของสิ่งทั้งหลาย
ดังนั้นขอให้มีแต่สิ่งที่ไม่มีเถิด
เพื่อเราจะได้เห็นความละเอียดอ่อนของมัน
ขอให้มีสิ่งที่มี เพื่อเราจะไดเห็นผลของมัน
ทั้งสองอย่างนี้เป็นสิ่งเดียวกัน..”

จากคัมภีร์บทดังกล่าวทำให้เรามองเห็นว่า ทุกสิ่งๆในโลกเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ความเป็นเต๋าก็เช่นกัน “เต๋า” เป็นเอกภาวะ หรือเอกภาพระหว่างสิ่งที่มีอยู่ และสิ่งที่ไม่มีอยู่ (จารุณี วงศ์ละคร, 2548) 

ผู้เขียนยังเคยได้อ่านเรื่องสั้นจากเว็บไซต์ มีเนื้อเรื่องโดยย่อดังนี้ “ชาวนาคนหนึ่งเสียใจอย่างมากที่วัวซึ่งเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของเขาตายจากไป แต่แล้วเขาก็กลับดีใจอย่างมากที่วัวของเขาจากไปตั้งแต่ตอนแรก เพราะเขาได้ข่าวจากภรรยาของเขามาว่าเพื่อนบ้านของเขาถูกฆ่าตายจากคนร้ายที่เข้ามาขโมยวัวในตอนดึก เขาคิดว่าถ้าเขามีวัวอยู่ เขาก็อาจถูกฆ่าตายด้วยเช่นกัน”

จากที่ได้กล่าวมาข้างต้น ผู้เขียนได้นำเอาเรื่องราวทั้งหมดมาวิเคราะห์ และเชื่อมโยงกัน สรุปได้ว่า ทุกๆสิ่งบนโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน สถานที่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยรกร้าง ทรุดโทรม วันหนึ่งมันก็กลับมาสวยงามได้ และวันหนึ่งมันก็อาจกลับมาทรุดโทรม รกร้างได้อีกเช่นกัน มนุษย์ก็เช่นกัน ครั้งหนึ่งเราอาจเคยเสียใจอย่างสุดๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เรื่องที่เคยเสียใจนั้นมันอาจทำให้เราดีใจสุดๆ ก็เป็นได้ เช่นเรื่องของชาวนาข้างต้น 

ดังนั้นเราจงทำใจยอมรับให้ได้เมื่อสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้น  จงจำไว้เสมอว่าสิ่งร้ายๆ นั้น จะไม่อยู่กับเราตลอดไป และเช่นกันเราไม่ก็ควรดีใจมากเกินไป เมื่อมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น เพราะสิ่งดีๆ นั้นจะไม่อยู่กับเราตลอดไป เมื่อมีสิ่งดี ก็ต้องมีสิ่งร้าย ทุกๆ สิ่งต้องเปลี่ยนแปลง เราไม่ควรหลงระเริงและประมาท เราควรมีสติอยู่เสมอ และเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อรับมือกับสิ่งที่เลวร้าย เมื่อมันผ่านพ้นไป เราก็จะได้พบกับสิ่งดีๆ อีกครั้ง ที่สำคัญจงทำใจยอมรับว่า เราต้องเจอกับทั้งสองสิ่งอยู่เสมอ เพราะโลกนี้มีสองด้านเสมอ  และตราบใดที่เรายังอยู่บนโลกใบนี้ เราก็จะต้องพบเจอกับทั้งสองสิ่งหมุนเวียนไปเรื่อยๆ

สุดท้ายก็อยากจะฝากบทเพลง ซึ่งเป็นเสมือนสิ่งคอยเตือนใจในการดำเนินชีวิตของทุกๆคน และเป็นเสมือนกำลังให้ทุกๆ คนฝ่าฟันปัญหา และพร้อมที่จะเผชิญกับทุกๆสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกนี้

ฤดูที่แตกต่าง

อดทนเวลาที่ฝนพรำ อย่างน้อยก็ทำให้เรา ได้เห็นถึงความแตกต่าง 
เมื่อวันเวลาที่ฝนจาง ฟ้าก็คงสว่างและทำให้เราได้เข้าใจ ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนที่เฝ้ารอ
หากเปรียบกับชีวิตของคน เมื่อยามสุขล้นจนใจมันยั้งไม่อยู่
ก็คงเปรียบได้กับฤดู คงเป็นฤดูที่แสนสดใส
แต่ถ้าวันหนึ่งวันไหน ที่ใจเจ็บจนทุกข์ ดั่งพายุที่โหมเข้าใส่
บอกกับตัวเองเอาไว้ ความเจ็บต้องมีวันหาย ไม่ต่างอะไรที่เราต้องเจอทุกฤดู
อดทนเวลาที่ฝนพรำ อย่างน้อยก็ทำให้เรา ได้เห็นถึงความแตกต่าง
เมื่อวันเวลาที่ฝนจาง ฟ้าก็คงสว่างและทำให้เราได้เข้าใจ ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนที่เฝ้ารอ
เมื่อวันที่ต้องเจ็บช้ำใจ จากความผิดหวังจนใจมันรับไม่ทัน
เป็นธรรมดาที่เราต้องไหวหวั่น กับวันที่อะไรมันเปลี่ยนไป
อย่าไปกลัวเวลาที่ฟ้าไม่เป็นใจ อย่าไปคิดว่ามันเป็นวันสุดท้าย
น้ำตาที่ไหลย่อมมีวันจางหาย หากไม่รู้จักเจ็บปวด ก็คงไม่ซึ้งถึงความสุขใจ



บทความโดย นันทพร คำยอด