ก่อนที่หนุ่มๆ สาวๆ จะลงทุนซื้อคอร์ส หรือโปรแกรมในการดูแลสุขภาพที่แพงๆ หรือจ้างเทรนเนอร์ส่วนตัวเพื่อช่วยแนะนำวิธีการดูแลสุขภาพร่างกายนั้น สิ่งคัญอย่างแรกที่ควรจะทำ คือ การเริ่มต้นสร้างสุขภาพที่ดีด้วยตัวเอง โดยทุกคนสามารถทำได้ง่ายๆ เริ่มจาก
1. การเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน อยู่ หลับนอน ควรรับประทานอาหาร นอนหลับ และตื่นนอนเป็นเวลา ไม่นอนดึกจนเกินไป ร่างกายจะได้ทำงานเป็นระบบ
2. ทานอาหารที่มีประโยชน์ ในแต่ละวันควรทานอาหารให้ครบห้าหมู่ โดยมื้อเช้า เป็นมื้อที่สำคัญ เพราะร่างกายต้องการพลังงานเพื่อใช้ในการทำงาน จึงควรทานอาหารที่ให้พลังสูงอย่างพวกขนมปัง ไข่ ชีสต์ เนื้อสัตว์ ข้าวโอ๊ต โยเกิร์ต ส่วนตอนกลางวัน และตอนเย็น ควรทานอาหารที่มีส่วนประกอบของผักให้มาก หลังจากที่ทานอาหารมื้อหลักแล้ว ควรทานผลไม้เพื่อเพิ่มวิตามินให้แก่ร่างกาย อย่าลืมดื่่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว และเมื่อทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว ก็ควรงดสิ่งที่ให้โทษแก่ร่างกาย เช่น บุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
3. ออกกำลังกายเป็นประจำ ทั้งนี้เพื่อช่วยให้ร่างกายแข็งแรง จิตใจแจ่มใส อาจจะออกกำลังกายคนเดียว หรือชวนเพื่อนไปออกำลังกายด้วยกันตอนเย็นหลังเลิกงาน หรือวันว่างเสาร์ อาทิตย์ หากีฬาที่ชอบ และทำได้ง่ายๆ เช่น วิ่ง เดิน โยคะ เต้นแอโรบิค ตีแบตมินตัน เตะฟุตบอล เตะตะกร้อ บาสเกตบอล ว่ายน้ำ เป็นต้น
4. จัดตารางชีวิต และการทำงานให้เป็นระบบระเบียบ ควรพกปฏิทินส่วนตัวเอาไว้ เพื่อช่วยวางแผนว่าปีนี้จะต้องทำอะไรบ้าง เดือนนี้มีกิจกรรมอะไรบ้างที่ต้องทำ และวันนี้ต้องทำอะไรบ้าง หากจะให้ดีควรจดบันทึกไว้เลยว่า จะทำอะไรก่อนหลังก่อนหลัง ตื่นกี่โมง และต้องทำอะไรในเวลาเท่าไร ทั้งนี้เพื่อช่วยให้เราไม่พลาดกิจกรรมดีๆ สามารถทำได้ครบ และรู้ว่าตัวเองต้องทำอะไรบ้างในแต่ละวัน ช่วยให้เครียดน้อยลง และลดความวุ่นวายในชีวิต
5. เขียนจดบันทึก สิ่งที่ต้องทำ ช่วยให้การทำงานของสมองมีระบบ งานเสร็จครบตามเวลา ทำให้ชีวิตไม่ยุ่งยาก และเครียดน้อยลง เพราะไม่ต้องมั่วมานั่งคิดว่ามีอะไรที่ต้องทำบ้าง ทำเสร็จหรือยัง มีงานอะไรค้างอีก แล้วต่อไปต้องทำอะไร หากจดบันทึกสิ่งที่ต้องทำ โดยเรียงลำดับตามความสำคัญมากไปน้อย เราก็จะรู้ว่า เรามีงานอะไรที่ต้องทำให้เสร็จก่อน ต้องเสร็จวันไหน และเมื่อเสร็จแล้วต้องทำงานอะไรต่อ
6. อย่าเอางานมาทำที่บ้าน ทำให้งานเสร็จที่ทำงาน อย่าเอามาทำต่อที่บ้าน เพราะจะทำให้เราสูญเสียเวลาในการพักผ่อน และเวลาที่จะพูดคุย หรือทำกิจกรรมสนุกๆ กับสมาชิกในครอบครัว
7. หาเวลาพักผ่อนซะบ้าง ทำงานมาเยอะแล้ว หลังเลิกงานหรือวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ก็อย่าเอาเรื่องงานมาคิด ทำให้เราเครียดตลอดเวลา ทำตัวให้สบายๆ นอนหลับตื่นสายสักวัน ทำตัวเกียจคร้านสักวัน ไม่ต้องคิดมาก ทั้งนี้เพื่อชาร์จพลังให้กับตัวเอง ทำให้ตัวเองมีแรงในการทำงานในวันต่อไป
8. งีบกลางวันบ้างก็ดีนะ การงีบหลับกลางวันนั้น ไม่ได้หมายถึงว่าเราขี้เกียจ แต่เป็นการชาร์จพลังให้กับร่างกาย ช่วยให้มีความจำที่ดีขึ้น ช่วยเพิ่มความตื่นตัวและสมรรถนะในการทำงาน แต่ละวันควรงีบหลับประมาณ 20-30 นาที แต่หากหลับเกินกว่านั้นจะกลายเป็นการหลับลึก ทำให้ร่างกายอ่อนล้า ไม่อยากทำงานต่อ บริษัทใหญ่ๆ มีชื่อเสียงบางบริษัท จะจัดหาห้องสบายๆ ไว้ให้พนักงานงีบหลับกลางวัน ทั้งนี้เพื่อให้พนักงานได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ สมองแล่น ไม่แอบงีบในชั่วโมงทำงาน หรือเกิดความเมื่อยล้า ทำงานได้ไม่เต็มที่ หรือร้ายแรงกว่านั้นคือ เบื่องาน ไม่อยากทำงาน เมื่อตื่นมาอีกครั้ง หัวสมองจะได้แล่น ทำงานออกมาได้ดี
9. เครียดนักก็พัก หากทำงานเยอะ เครียดมากๆ ก็อย่าฝืนทำต่อ เพราะทำต่อไปงานก็ออกมาไม่ดี ต้องมาเครียดหนักกว่าเดิมอีก ที่สำคัญจะทำให้สุขภาพแย่ ร่างกายป่วย จิตใจหดหู่ ชีวิตไม่มีความสุข พอรู้สึกว่าตัวเองเครียด ให้หยุดทำงาน ให้สมองได้พักผ่อนบ้าง ลองหลับตาสักพัก ออกไปเดินเล่น ฟังเพลงเบาๆ หรือคุยกับคนรอบข้าง หลังจากที่รู้สึกผ่อนคลายแล้ว จึงค่อยเริ่มงานใหม่ รับรองว่าสมองแล่น ทำงานออกมาได้ดีแน่นอน
10. หากิจกรรมที่สนุกๆ วันว่างๆ หยุดพักจากการทำงาน ก็ชวนแฟน เพื่อนๆ หรือคนในครอบครัว คนที่เรารักออกไปทำกิจกรรมสนุกๆ ด้วยกันข้างนอก เช่น การดูหนังที่ชอบ ไปปืนเขา ดำน้ำ เดินเล่นในสวน ให้อาหารปลา ปิคนิคในสวนสาธารณะ ทำอาหารในสวนหลังบ้าน หาเปลไปผูกตามต้นไม้ในสวนสาธาณะ หรือสวนหลังบ้าน พร้อมกับฟังเพลง หรืออ่านหนังสือที่ชอบ
11. ทำกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ หากมีโอกาสควรชวนเพื่อน เข้าร่วมกลุ่มทำกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ หลังจากที่เราทำแล้ว รับรองว่าเราจะรู้สึกมีความสุข สนุก รู้สึกดีกับตัวเองสุดๆ รู้สึกว่าตัวเองมีค่า และภูมิใจในตัวเองมากขึ้น การมีความสุขกับสิ่งที่ทำ จะทำให้เรามีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น
12. อย่าลืมตรวจสุขภาพประจำปี อย่าคิดว่าป็นเรื่องไม่สำคัญ การตรวจสุขภาพประจำปีทำให้เราทราบว่ามีสุขภาพดี หรือบกพร่อง เป็นวิธีการค้นหาโรคและความผิดปรกติซึ่งซ่อนเร้นอยู่ในร่างกายที่ดูเสมือนแข็งแรง สบายดี เป็นวิธีในการป้องกันโรคในระยะเริ่มแรกมิให้รุกรามมากขึ้น การตรวจสุขภาพเป็นวิธีการที่ถูกต้องกว่าการคอยให้การบำบัดรักษาเมื่อมีอาการของโรคปรากฏขึ้น
บทความโดย นันทพร คำยอด
บทความโดย นันทพร คำยอด
No comments:
Post a Comment