คู่โยคะ (Yoga) + พิลาทีส (Pilates) ดูโอเพื่อหุ่นสุดเพอร์เฟคท์

เพื่อหุ่นที่เพอร์เฟคท์แบบสุด ๆ ในเวลาที่รวดเร็วขึ้น ยืดเหยียดกล้ามเนื้อด้วยโยคะอย่างเดียวอาจไม่เลิศพอ แนะนำให้เล่นพิลาทีสควบคู่กันไปด้วย รับรอง…แจ่ม! เพราะท่าทางการเล่นบางท่าจะคล้ายคลึงกัน หลายคนอาจคิดว่าโยคะกับพิลาทีสก็เหมือนๆ กันนั่นแหละ แต่ที่จริงแล้วถึงทั้งสองอย่างนี้แตกต่างตั้งแต่ที่มา วิธีเล่น ไปจนถึงประโยชน์ที่ได้เลยทีเดียว

พิลาทีส (Pilates) คือ การออกกำลังกายรูปแบบใหม่ ที่เพิ่งจะแพร่เข้ามาในเมืองไทยเมื่อไม่กี่ปีมานี้ คิดค้นโดยโจเซฟ พิลาทีส เพื่อบำบัดทหารผ่านศึกในสงครามโลกครั้งที่ 2 มีการใช้หลักการแพทย์เข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อเรียงกระดูกข้อต่อให้กลับมาอยู่ที่จุดสมดุลและฝึกการใช้กล้ามเนื้ออย่างมีประสิทธิภาพ พิลาทีสมีหลายรูปแบบ ทั้งพิลาทีสบนเสื่อคล้ายกับโยคะ พิลาทีสกับฟิตเนสบอล และพิลาทีสบนเครื่องแบบต่าง ๆ

ศาสตร์ของโยคะมีต้นกำเนิดมาจากพวกโยคีที่ฝึกเพื่อให้นั่งสมาธิได้นานขึ้น มีทั้งหมดแปดแขนง ส่วนที่เรารู้จักและเล่นกันอย่างแพร่หลายในทุกวันนี้คือแขนงที่พูดถึงการออกกำลังกายเรียกว่า "หฐโยคะ" คลาสโยคะที่เราเห็นกันของสถาบันต่าง ๆ ใช้หลักการของหฐโยคะทั้งนั้น เช่น โยคะร้อนที่คิดค้นขึ้นที่อเมริกา เพื่อให้คนแถบตะวันตกที่ร่างกายไม่ค่อยยืดหยุ่นสามารถฝึกโยคะได้ง่ายขึ้น ปลอดภัยขึ้น และลดอาการเจ็บปวด

ต่างกันยังไง?

การเล่นโยคะจะช่วยในเรื่องของความอ่อนตัวและระบบภายใน เช่น ระบบการเผาผลาญ ระบบการไหลเวียนของเลือด และระบบการหายใจ รวมถึงเป็นการฝึกสมาธิด้วย ส่วนพิลาทีสจะเน้นการบรรเทาอาการบาดเจ็บและเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ

วิธีการเล่นก็แตกต่างกัน โดยโยคะจะไม่ได้อยู่บนเครื่องเหมือนพิลาทีส ใช้การหายใจเข้า และออกทางจมูก ขณะที่พิลาทีสจะหายใจเข้าทางจมูกและออกทางปาก

เล่นคู่กันดีกว่ายังไง?

ทั้งโยคะและพิลาทีสล้วนแต่เป็นการยืดเหยียดกล้ามเนื้อทั่วร่างกายให้เรียวยาวและได้รูปสวย แต่ท่าของโยคะจะเน้นการบริหารกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ส่วนของพิลาทีสจะบริหารกล้ามเนื้อมัดเล็ก ดังนั้น เมื่อออกกำลังกายทั้งสองแบบคู่กันก็จะเป็นการดูแลกล้ามเนื้อทุกมัดอย่างแท้จริง กล้ามเนื้อและข้อต่อก็จะแข็งแรงมากขึ้น การลดน้ำหนักก็จะเห็นผลได้ไวกว่าการเล่นแค่อย่างใดอย่างหนึ่งด้วย

แล้วจะเล่นยังไงดี?

โยคะที่เล่นคู่กับพิลาทีสจะเป็นแบบเย็นหรือแบบร้อนก็ได้ทั้งนั้น ยกเว้นถ้ามีอาการบาดเจ็บมาก่อนแนะนำให้เล่นโยคะร้อน เพราะจะช่วยในการคลายกล้ามเนื้อมากกว่าโยคะแบบปกติ ส่วนคลาสพิลาทีสนั้นไม่มีการแบ่งเย็น-ร้อน แต่จะแยกไปตามอุปกรณ์ หรือส่วนต่าง ๆ ที่ต้องการเน้นว่าอยากฟิตส่วนไหน

ถ้าจะเล่นทั้ง 2 อย่าง ควรจะเล่นสักอย่างละ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยเล่นให้ต่อเนื่อง อาจจะเล่นทั้ง 2 อย่างในวันเดียวกัน เช่น เช้าโยคะ เย็นพิลาทีสก็ได้ แต่ควรเลือกคลาสที่ใช้กล้ามเนื้อคนละส่วนกัน นอกจากนี้ควรเปลี่ยนคลาสเรื่อย ๆ เพื่อให้ได้ใช้กล้ามเนื้อทั่วร่างกาย

Tip

หลังการออกกำลังไม่ว่าจะด้วยโยคะหรือพิลาทีส อย่าลืมพักฟื้นฟูกล้ามเนื้อส่วนนั้น ๆ ประมาณ 48 ชั่วโมง แต่ถ้าออกกำลังกายสม่ำเสมออยู่แล้วก็ 24 ชั่วโมง อย่าฝืนบริหารกล้ามเนื้อส่วนเดิมซ้ำ ๆ เพราะอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บและได้ประโยชน์ไม่เต็มที่ และต้องกินอาหารและพักผ่อนให้เพียงพอด้วย

สำหรับสาวๆ ที่มองหาคอร์สราคาเรียนโยคะฟลาย (Yoga Fly) และพิทลาทีส (Pilates) ในราคาสุดคุ้ม อย่าลืมนึกถึง Sanooklife นะคะ รับประกันราคาถูกที่สุดในกรุงเทพ หากเจอคอร์สที่ถูกกว่า เรายินดีคืนเงิน

Yoga fly Aerial dance 10 Classes ราคาเพียงงแค่ 4,275 บาท (จากปกติ 4,500 บาท) สำหรับคนที่เป็นสมาชิก Sanook Life รับส่วนลด 10% เหลือเพียงแค่ 4,050 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.sanooklife.com/collections/50-yogafly-bangkok

พิลาทิส Reformer 10 Classes ลด 5% จาก 6,500 เหลือ 6,175 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.sanooklife.com/collections/pilates-bangkok-1

พิเศษสุดๆ หากเลือกเรียน Pilates Mat work และ Yoga fly ร่วมด้วยเพื่อให้ครบจำนวน 10 Classes สามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษนี้ผ่านทาง www.sanooklife.com