Wednesday, February 12, 2014

ดื่ม "คอลลาเจนผง" แล้วเต่งตึงขาวจั๊วะ เรื่องจริงหรือเพ้อไปเอง


ความขาวแบบง่ายๆ มักครองใจคนรุ่นใหม่เสมอ เทรนด์ใหม่ล่าสุด! คอลลาเจน (Collagen) ในรูปแบบผง 1 ซองต่อ 1 วัน จึงตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ซองเดียวชงกับน้ำ หรือเติมในอาหารรับประทานง่าย

"ผิวขาว หน้าใส เร่งด่วน เห็นผลภายใน 1 สัปดาห์ !! โดดเด่นด้วยคอลลาเจนเข้มข้น ไม่ต้องฉีดปลอดภัย 100%"

นี่คือตัวอย่างคำโฆษณาสรรพคุณของเจ้าคอลลาเจนผง สาวกความขาวจึงแห่ซื้อมากินเพราะหวังว่าจะขาวและเต่งตึงได้ประโยชน์ 2 เด้ง

คอลลาเจนผงไร้ประโยชน์ ไม่ดูดซึม เปลือง!

คอลลาเจนผง ไม่มีประโยชน์ แทบจะไม่ได้ดูดซึมอะไรเลย จะถ่ายทิ้งออกมาหมด เปลือง" นพ.ปิยะวงศ์ เศรษฐวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก Skeyndor Clinic กล่าว

"ถามว่า ทำไมคอลลาเจนผงถึงกำลังเป็นที่โด่งดัง คงจะเป็นเรื่องของการมาร์เก็ตติ้งมากกว่าครับ เพราะสารส่วนใหญ่ที่ออกฤทธิ์จะโดนกรดในกระเพาะทำลายหมด ยกเว้นวิตามินบางชนิดเท่านั้นเท่านั้นเอง

ถ้าจะได้ผล คอลลาเจนต้องฉีดเข้าไป หรือเป็นการใช้ทาข้างนอกและใช้เครื่องมือพิเศษผลักไอออนให้คอลลาเจนเข้าไป หรือมีเลเซอร์บางตัวไปกระตุ้น ไปสั่นเพื่อให้คอลลาเจนเกิดการกระตุ้น ปลุกให้คอลลาเจนตื่นตัว เพราะตอนนี้มันหลับอยู่ พอเข้าไปกระตุ้นมันก็จะตื่นนั่นเอง

 และคอลลาเจนสามารถสร้างเพิ่มขึ้นมาได้ เช่น การร้อยไหม หรือการใช้เครื่องเลเซอร์ผลักหรือกระตุ้น จะทำให้คอลลาเจนตื่นตัวได้"

คุณหมอย้ำว่า "แต่ถ้าใช้กิน ไม่ค่อยเวิร์ก ไม่แนะนำ" พร้อมอธิบายต่อว่า คอลลาเจนไม่ได้ทำให้ขาวหรอก แต่เป็นเพราะสารตัวอื่นมากกว่าซึ่งผลข้างเคียงเพียบ

 "การกินแล้วแล้วขาวนั้น อาจจะเป็นเพราะการผสมกลูตาไธโอน หรือผสมสารปรอท ซึ่งสารปรอทนี่ขาวแน่นอน แต่ผลข้างเคียงเยอะมาก ทำให้ตับ ไต พังหมดเลยครับ ในระยะสั้นขาวจริง แต่ในระยะยาวเป็นผลเสียต่อร่างกายมาก ระยะยาวนั้นถ้าเป็นคนไข้ที่ไม่ได้มีโรคประจำตัว เช่น ตับไม่ได้วาย ไตไม่ได้วาย อาจจะราวๆ 1 ปี ติดต่อกันไตจะเกิดอาการวาย"

ดังนั้นการทานคอลลาเจนผง คุณหมอฟันโช๊ะว่า กินแล้วไม่ได้ขาวใสปิ๊งขึ้นหรอก แต่เป็นเรื่องของ "การคิดไปเอง”มากกว่า

"ถ้าไม่ได้มีปัญหาเรื่องของการเงิน ถ้าซื้อได้ กินได้ รู้สึกดี ก็กินครับ ผมว่ามันเป็นเรื่องของสุขภาพจิตด้วยนะ ถ้ากินแล้วรู้สึกดี รู้สึก healthy ราคารับไหว กินแล้วไม่ได้มีผลข้างเคียงอะไร ตรวจดูแล้วไม่ได้มีสารปรอท ไม่มีสารเคมีอื่นตกค้างก็สามารถกินได้ ก็ไม่ได้เป็นเรื่องต้องห้ามอะไร

แต่ถ้ากินแล้วจะหวังผลว่ามันจะต้องได้อย่างนั้นขาวได้อย่างนี้ก็คงไม่ใช่จุดประสงค์ เพราะการกินคอลลาเจนผงไม่ได้กระตุ้นให้ขาวได้จึงบอกไม่ได้ว่าทานกี่มิลลิกรัมต่อวันแล้วจะขาว น่าจะเป็นส่วนของกลูต้าไธโอนบวกกับวิตามินซีมากกว่า"

ที่มา: www.manager.co.th

No comments:

Post a Comment